ชาวชุมชนหนองพันธ์จันทร์ ราชบุรี ร้องกองปราบเอาผิด 2 จนท.ธนาคารชุมชนยักยอก22 ล้าน

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ธันวาคม ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) นายศรีชล สระทองมอญ อายุ 65 ปี พร้อมชาวบ้านหนองพันจันทร์ อ.บ้านคา จ.ราชบุรี กว่า 20 คน เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.อดิศักดิ์ ละม่อม สว.(สอบสวน) กก.5 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารชุมชนบ้านหนองพันจันทร์ จำนวน 2 คน หลังพบว่ามีพฤติการณ์เข้าข่ายกระทำผิดทุจริตเงินออมทรัพย์ของชาวบ้านไปกว่า 22 ล้านบาท จนทำให้ชาวบ้านที่เป็นสมาชิกธนาคารชุมชนดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยนำเอกสารการฝากเงินและเบิกถอนเงินจกธนาคารดังกล่าวมามอบให้กับพนักงานสอบสวนเพื่อประกอบการพิจารณา

นายศรีชล กล่าวว่า เดิมทีธนาคารชุมชนบ้านหนองพันจันทร์ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2548 มีคณะกรรมการบริหารเป็นข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่นหลายราย โดยได้รับการรับรองและมีตราสัญลักษณ์จากองค์กรภาครัฐที่เกี่ยวข้อง จนชาวบ้านไว้เนื้อเชื่อใจนำเงินมาฝากกันอย่างต่อเนื่อง กระทั่งเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านบางส่วนที่เป็นสมาชิกไปทำการถอนเงินที่ฝากไว้ออกมา แต่ปรากฏว่าทางสถาบันการเงินดังกล่าวกลับไม่สามารถถอนเงินให้กลับสมาชิกได้ เมื่อทวงถามกลับถูกบ่ายเบี่ยง จนเมื่อทางเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์มาตรวจสอบกลับพบว่าในธนาคารชุมชนดังกล่าวมีเงินของสมาชิกคงเหลือเพียงไม่กี่แสนบาทเท่านั้น ทั้งที่ความเป็นจริงเงินในธนาคารที่ได้จากชาวบ้านที่เป็นสมาชิกนำมาฝากควรมียอดอยู่ในบัญชีรวมกว่า 29 ล้านบาท ซึ่งเมื่อหักลบกับยอดเงินที่ชาวบ้านบางส่วนขอกู้ไปใช้หรือเบิกถอนไป ประมาณ 5-7 ล้านบาท ก็ควรจะมีเงินเหลืออยู่ในธนาคาร 22 ล้านบาท แล้วเงินส่วนที่เหลือนี้หายไปไหน

นายศรีชล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หลังจากที่ชาวบ้านเริ่มทราบเรื่องว่าเงินในธนาคารชุมชนหายไปเกือบหมด ก็พยายามทวงถามกับทางคณะกรรมการเพื่อช่วยตรวจสอบและสืบหาความจริง ตลอด 3 เดือนที่ผ่านมา แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ อย่างไรก็ตามจากกรณีดังกล่าวทุกคนทราบดีว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากมีเจ้าหน้าที่ของธนาคารชุมนดังกล่าวจำนวน 2 คน ได้ทำการยักยอกเงินของชาวบ้านที่ฝากไว้กับธนาคารดังกล่าวไปจนเกือบหมด และตัวของเจ้าหน้าที่ธนาคาร 2 คนดังกล่าวเองนั้นก็ยอมรับว่าได้ทำการยักยอกจริง แต่ทางคณะกรรมการธนาคารชุมชนดังกล่าวกลับยังไม่สามารถติดตามเงินที่ถูกยักยอกไปจากเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนนี้กลับมาได้ และจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านกว่า 80 ชีวิต ที่นำเงินไปฝากไว้กับธนาคารดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงได้รวมตัวกันมาเข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบเพื่อให้ช่วยดำเนินการเอาผิดกับ 2 เจ้าหน้าที่ธนาคารชุมชนและช่วยติดตามเงินที่หายไปกลับมา

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการแยกสอบปากคำชาวบ้านผู้เสียหายอย่างละเอียด เพื่อนำไปพิจารณาควบคู่กับพยานหลักฐานที่นำมามอบให้ ก่อนส่งเรื่องต่อให้กับผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image