เมื่อวันที่ 30 ธันวาคม พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. เปิดเผยถึงมาตรการป้องกันเหตุร้ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกประกาศแจ้งเตือนห้ามประชาชนที่กำลังจะฉลองเทศกาลส่งท้ายปีเก่าขึ้นปีใหม่มิให้ผู้ใดยิงปืนขึ้นฟ้าและกำชับการปฏิบัติหน้าที่ ของตำรวจให้เข้มงวดทุกระเบียบ เมื่อเกิดเหตุต้องลงพื้นที่ตรวจสอบวิถีกระสุน และติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งอยากฝากเตือนสำหรับใครที่คิดจะฉลองปีใหม่ด้วยการยิงปืนขึ้นฟ้านั้น เสี่ยงต่อการที่กระสุนจะตกลงมาถูกประชาชนอาจเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บและทำให้ทรัพย์สินเสียหายได้ ซึ่งการสืบสวนตำรวจมีวิธีการติดตามผู้กระทำผิดได้เนื่องจากมีวิธีการคำนวณวิถีกระสุนปืน สำหรับโทษจะเป็นความผิดทางอาญา ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนปีพ.ศ. 2490 มาตรา 8 ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับใบอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัวเมื่อมีเหตุ จำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ไม่ว่ากรณีใด ห้ามมิให้พาอาวุธปืนไป โดยเปิดเผย หรือพาไปในชุมนุมชน ที่ได้จัดให้มีขึ้น เพื่อนมัสการ การรื่นเริง การมหรสพ หรือการอื่นใด
นอกจากนี้ หากยิงแล้วปรากฎว่าไปโดนผู้อื่น ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ต้องรับผิดดังนี้ มาตรา291 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับไม่เกิน 200,000 บาท มาตรา 300 ผู้ใดกระทำโดยประมาท และ การกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับรวมถึง มาตรา 390ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และยังต้องรับผิดในทางแพ่ง ถูกเรียกร้องค่าเสียหายได้
พ.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวต่อว่า จึงอยากฝากเตือนประชาชนให้เปลี่ยนค่านิยมเสียใหม่ในเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ส่วนกรณีการยิงปืนขึ้นฟ้าในช่วงปีใหม่ 2561 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่ามีผู้ยิงปืนขึ้นฟ้าช่วงเคาต์ดาวน์จำนวน 12 ราย ซึ่งถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายทั้งหมด
