จากกรณี น้องมิลด์ ด.ญ.วรรรญา วรรณผ่อง นักกีฬาโดรนแชมป์โลกที่ได้ชนะการแข่งขันจากประเทศจีนวัย 11 ขวบ ประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บ ระหว่างเดินทางกับญาติ รวม 4 ราย เพื่อไปกลับไปเยี่ยมคุณย่า อายุ 85 ปี ที่ บ้านห้วยไก่ตอ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะเดินทางทางด้วยรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีเทา ตอนครึ่ง ทะเบียน ลท 9452 กทม. แต่ต่อมารถประสบอุบัติเหตุเสียหลักตกร่องกลางถนนเพชรเกษม ขาล่องใต้ ตรงข้ามปั๊มน้ำมัน พีที ห่างจาก รพ.ทับสะแกไปทางทิศใต้ประมาณ 600 เมตร เหตุเกิดเมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 29 ธันวาคม ที่ผ่านมา ล่าสุดบิดาของน้องมิลด์ได้ร้องขอความเป็นธรรม เนื่องจากในวันดังกล่าวถูกรถคันอื่นเฉี่ยวชนแล้วหลบหนี โดยมีเบาะแสรถคู่กรณีเป็นกระบะโตโยต้า วีโก้ สีบอร์นทอง
ความคืบหน้า วันที่ 31 ธันวาคม น้องมิลด์พร้อมนายอาวุธ วรรณผ่อง บิดาเดินทางไปเยี่ยมนางวรรณิษา ทับทิม อายุ 28 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บตับฉีก ระดับ 4 ที่ตึกศัลยกรรม โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ด้วยความห่วงใย ก่อนเดินทางกลับ กทม. เพื่อเตรียมตัวเดินทางไปฝึกซ้อมก่อนไปแข่งขันโดรนที่ประเทศบรูไน โดยนางวรรณิษา ยังมีอาการบาดเจ็บสาหัสแพทย์สั่งงดอาหารและน้ำ ห้ามลุกขึ้นนั่ง ขณะที่นางระเวง ทับทิม อายุ 51 ปี มารดาที่บาดเจ็บแขนขวาหัก ต้องเฝ้าอาการตลาด 24 ชั่วโมง เนื่องจากเกรงบุตรสาวจะมีเลือดออกในช่องท้องและมีอาการช๊อค หากภายใน 3 วันอาการไม่ดีขึ้นจะต้องเข้ารับการผ่าตัด
นายอาวุธ วรรณผ่อง กล่าวว่า ขณะนี้บุตรสาวมีอาการปลอดภัย แต่ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทับสะแก ติดตามคดีให้มีความคืบหน้า เนื่องจากเกิดเหตุแล้ว 3 วัน ยังไม่มีการสอบปากคำผู้ประสบอุบัติเหตุ เพื่อติดตามรถคู่กรณี นอกจากนั้นตนยังรู้สึกหนักใจ กรณีมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางรายที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ใช้คำพูดในลักษณะข่มขู่ ขณะที่ญาติและบุตรสาวได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ พยายามกล่าวหาว่าดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์หรือมีอาการหลับใน แต่ญาติได้ปฏิเสธตามที่ถูกตั้งข้อสังเกต
“หากปล่อยเรื่องนี้เงียบไป เจ้าหน้าที่ก็คงจะไม่ติดตามเพื่อหาคู่กรณี เพราะคิดว่าเป็นอุบัติเหตุตามปกติในการเดินทางช่วงปีใหม่ จึงตัดสินใจนำภาพรถที่ประสบอุบัติเหตุไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม และขอให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดตรวจสอบเพื่อหาคู่กรณีที่เฉี่ยวชนมาดำเนินคดี ส่วนรถยนต์ที่ประสบอุบัติเหตุ ทราบว่ามีเพียงประกันชั้น 3 หลังจากได้รับเสียหายหนัก คาดว่าต้องทิ้งซาก เนื่องจากอู่ซ่อมประเมินแล้วยืนยันว่าต้องจ่ายค่าซ่อมสูงมาก” นายอาวุธกล่าวและว่า ที่ผ่านมาบุตรสาวสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทยและได้รับการชื่นชมจากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ออกอากาศในวันที่ 9 พฤศจิกายน 2561 ภายหลังชนะเลิศอันดับ 1 ประเภทหญิง จากการแข่งขัน World Drone Racing Championships ที่ประเทศจีน
มีรายงานว่า ต่อมานายอาวุธ ได้เล่าเหตุการณ์ผ่านโทรศัพท์ให้นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังจากเกิดอุบัติเหตุแล้วกรมทางหลวงทำบันทึกแจ้งเรียกค่าเสียหายกว่า 5,000 บาท กรณีต้นไม้ในร่องกลางถนนถูกรถชนหักโค่น 2 ต้น โดยแจ้งว่า เป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากการเฉี่ยวชน ไม่ได้เกิดจากอาการหลับในหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์แต่อย่างใด ต่อมานายภิรมย์ได้แจ้งว่า จะแจ้งให้กรมทางหลวงทราบว่า หากอุบัติเหตุดังกล่าวไม่ได้เกิดจากความประมาทของผู้ใช้รถ และคดียังไม่สิ้นสุดยังไม่ควรเร่งรับเพื่อเรียกค่าเสียหาย
พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธร ( ผบก.ภ) จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้น พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.ทับสะแก ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณสี่แยกทางเข้าตลาดทับสะแก ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุทางทิศเหนือ 2 กิโลเมตร และบริเวณทางแยก ทางร่วม ตลอดระยะทางบนถนนเพชรเกษมในรัศมี 20 กิโลเมตร เพื่อหารถคู่กรณีที่ผู้เสียหายให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยเช๊คจากเวลาทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ คาดว่าใช้เวลาไม่นาน ขณะเดียวกันสั่งการให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติม โดยเฉพาะหลักฐานจากสีของรถคู่กรณีที่มีร่องร่อยการเฉี่ยวชนบริเวณกระบะท้าย ซึ่งทราบว่ารถผู้เสียหายจอดอยู่ในอู่ซ่อมแห่งหนึ่งที่สามแยกบ้านกรูด อ.บางสะพาน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามน้องมิลด์ ช่วงประสบอุบัติเหตุยอมรับว่าตกใจมาก แต่มีสติไม่ได้กระเด็นออกนอกรถเหมือนญาติ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส มีเพียงศรีษะกระแทกกับรถมีอาการมึนเล็กน้อย และขณะนี้ยืนยันว่าพร้อมจะฝึกซ้อมเพื่อทำการแข่งขันสร้างชื้อเสียงให้ประเทศชาติต่อไป
