ปีใหม่เลือด สุดสยอง ลูกเขยเมาคลั่งยิงดับยกครัว 6 ศพ ก่อนลั่นไกยิงตัวตาย รวม 7 ศพ

เมื่อเวลา 00.20 น.วันที่ 1 มกราคม 2562 พ.ต.ท.ลาภ คำพันธ์ สวส.สภ.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร รับแจ้งว่าเกิดเหตุยิงกันตายใจกลางตลาดพะโต๊ะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สภ.พะโต๊ะ พ.ต.อ.เสริมศักดิ์ พ่วงพิศ ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.ท.พิษณุ บุษยวิทย์ รอง ผกก.ป. สภ.พะโต๊ะ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ชุมพร และ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเขต อ.พะโต๊ะ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเลขที่ 86 หมู่ที่ 8 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ ซึ่งเป็นห้องแถวชั้นเดียว เปิดเป็นร้านเสริมสวย ชื่อ “อ่อนมุกข์”

พบหน้าร้านมีโต๊ะตั้งเครื่องดื่ม อาหาร ล้มเกลื่อนกลาด ใต้โต๊ะพบศพ นายวิจิตร นาคลอด อายุ 50 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดเสียชีวิตอยู่บนพื้น บนเก้าอี้โซฟาพบศพ นางรัชพร อ่อนมุกข์ อายุ 50 ปี สวมชุดนอนเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้น เสียชีวิตในสภาพกึ่งนั่งกึ่งนอน มีตะกร้าส้มวางอยู่บนเก้าอี้ด้านหน้า ที่พื้นพบศพ นางงุด อ่อนมุกข์ อายุ 71 ปี เจ้าของร้านนอนหงายเสียชีวิตอยู่ข้างโซฟาสำหรับลูกค้านั่งรอ นอกจากนั้น หลังบ้านยังพบศพ น.ส.ผกามาศ อ่อนมุกข์ อายุ 47 ปี ด.ญ.ชนัญธิดา ศรสังข์ อายุ 6 ขวบ ด.ช.กษิเดช ศรสังข์ อายุ 9 ปี และพบศพ นายสุชีพ ศรสังข์ อายุ 41 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องนอน มีรอยถูกยิงที่ขมับขวาด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกัน โดยมี นายทินกร อ่อนมุกข์ อายุ 33 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าท้องทะลุสีข้างขวา ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนร้องครวญครางขอความช่วยเหลือ จึงรีบนำตัวส่ง รพ.พะโต๊ะ และผู้เสียชีวิตทุกคนมีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม.

นายทินกร ที่ยังพอให้การได้เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุที่หน้าบ้านดังกล่าวกำลังจัดงานเคาท์ดาวน์ก่อนเข้าสู่ปีใหม่ 2562 มีการดื่มกินและสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานเฮฮา จนกระทั่ง นายสุชีพ ศรสังข์ พี่เขยของตนเดินเข้ามาในอาการเมาอย่างหนัก พร้อมทั้งส่งเสียงโวยวายว่า “ผมอยู่ที่นี่ไม่เคยมีความดี ทั้งที่ช่วยเหลือมาทุกอย่าง เอาอย่างนี้ดีกว่า เคลียร์กันเลยแล้วกัน” ก่อนชักอาวุธปืนบาเร็ตต้า 3 นิ้ว ขนาด 9 ม.ม.จ่อยิง นายวิจิตร นาคลอด ลูกเขยคนโต ของครอบครัวล้มลงตายก่อนเป็นรายแรก แล้วหันปากกระบอกปืนมายิงนายทินกรจนล้มลง แต่นายทินกรแกล้งทำเป็นตาย นายสุชีพจึงเดินไปจ่อยิงนางงุดผู้เป็นมารดา และยิง น.ส.ผกามาศ ที่กำลังนั่งกับแม่ที่โซฟา ทำให้นางงุดเสียชีวิตทันที ส่วน น.ส.ผกามาศกระเสือกกระสนไปเสียชีวิตหลังบ้าน จากนั้น ได้ยินเสียงนายสุชีพเปลี่ยนแมกซ์บรรจุกระสุน แล้วก็มีเสียงปืนดังขึ้นอีกหลายนัด ทำให้ลูกสาวและลูกชาย และนางสาวรัชพรเสียชีวิตอีก 3 ราย ก่อนที่นายสุชีพจะใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวยิงตัวตายเป็นศพที่ 7 เพื่อหลบหนีความผิด

เวลา 01.30 น.วันเดียวกัน นายสมพร ปัจฉิมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมติดตามดูรายละเอียด ก่อนเปิดเผยว่า ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าสาเหตุคงเกิดจากความคับแค้นใจของ นายสุชีพ ศรสังข์ ที่เป็นลูกเขยของนางงุด และเป็นสามีของ นส.บุณยนุช ศรสังข์ อายุ 37 ปี แต่ น.ส.บุญยนุชไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ซึ่งนายสุชีพเป็นผู้มีประวัติอาชญากรรมอย่างโชกโชน และเพิ่งพ้นโทษข้อหาพยายามฆ่า ติดคุกนาน 3 ปี โดยออกจากเรือนจำนครศรีธรรมราชเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 ก่อนกลับมาอยู่ที่บ้านร้านเสริมสวยดังกล่าวที่มีลูกชายและลูกสาวอยู่กับนางงุดผู้เป็นยาย แต่นายสุชีพยังไม่ยอมทิ้งนิสัยเดิม และไม่ยอมทำงาน เอาแต่ดื่มเบียร์ ดื่มเหล้า และพูดจาข่มขู่คนในครอบครัวทุกวัน โดยกล่าวหาทุกคนในครอบครัวว่ารังเกียจนายสุชีพที่เป็นคนขี้คุก และจะฆ่าให้ตายทั้งหมดสักวัน จนกระทั่งมาก่อเหตุสะเทือนขวัญรับปีใหม่ขึ้นในครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่คงต้องสอบปากคำคนใกล้ชิดทุกคน รวมทั้งภรรยาของนายสุชีพผู้ก่อเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image