คุมประพฤติสรุปตัวเลข “เมาขับ”ช่วงปีใหม่ทะลุ 8 พันคดี ส่งบำบัด รพ. 4 ราย ติดกำไลEM 116 ราย

คุมประพฤติสรุปตัวเลข เมาแล้วขับช่วงปีใหม่ทะลุ 8 พันคดี ร่วมกับ สธ. ส่งบำบัด รพ. 4 ราย ติดกำไลอีเอ็มควบคุม 116 ราย

เมื่อวันที่ 7 มกราคม ที่ห้องประชุมกรมคุมประพฤติ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ พร้อมด้วยนายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมแถลงข่าวสถิติคดี “ดื่มแล้วขับ/ขับขี่ประมาท ถูกจับคุมประพฤติ” ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ. 2562

อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ มีคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 117 แห่ง มีจำนวนทั้งสิ้น 9,453 คดี แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 8,706 คดี คิดเป็นร้อยละ 92.1 ขับเสพและอื่นๆ จำนวน 701 คดี คิดเป็นร้อยละ 7.42 ขับรถประมาท (ตามประมวลกฎหมายอาญา) จำนวน 44 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.46 ขับซิ่ง จำนวน 2 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.02 เมื่อเปรียบเทียบกับสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปี 2561 พบว่า มีจำนวนเพิ่มขึ้น 2,776 คดี คิดเป็นร้อยละ 41.58 จังหวัดที่มีสถิติสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จำนวน 567 คดี จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 565 คดี จังหวัดสกลนคร จำนวน 544 คดี

นายประสารกล่าวว่า โดยส่วนใหญ่ศาลกำหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติ 1 ปี รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 4 ครั้ง ทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง และเงื่อนไขอื่นๆ เช่น อบรมระเบียบวินัยจราจร ห้ามเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ห้ามออกจากบ้านตามช่วงเวลากำหนดโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EM) ติดตามตัว เป็นต้น

Advertisement

อธิบดีกรมคุมประพฤติเผยว่า ศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (EM) ในช่วง 7 วันที่มีการควบคุมเข้มงวด จำนวน 80 ราย และได้มีการสั่งให้ติด EM กับผู้กระทำผิดเพิ่ม ณ ปัจจุบัน (7 มกราคม 2562) มีจำนวน 116 ราย กำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่อยู่อาศัยของตน ส่วนใหญ่ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ระยะเวลา 15 วัน ขณะนี้พบว่า มีผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุราในจังหวัดกรุงเทพฯไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข จำนวน 1 ราย โดยออกจากที่พักในเวลาที่ห้ามออก ขณะนี้สำนักงานคุมประพฤติได้รายงานศาลเพื่อพิจารณามีคำสั่งต่อไป

อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับมาตรการบังคับโทษตามคำสั่งศาลของกรมคุมประพฤติกับผู้กระทำผิดซ้ำแต่ไม่อยู่ในเกณฑ์ต้องส่งบำบัดและผู้กระทำผิดในคดี พ.ร.บ.จราจรทางบก จะเข้าโปรแกรมการแก้ไขฟื้นฟูตามประเภทความเสี่ยง นอกจากนี้ ในส่วนมาตรการทำงานบริการสังคมตามที่ศาลมีคำสั่ง กรมคุมประพฤติจะให้ผู้ถูกคุมความประพฤติทำงานบริการสังคมในสถานพยาบาล การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียง เพื่อดำเนินกิจกรรมการกระตุ้นจิตสำนึกและรับทราบถึงความสูญเสียต่างๆ รวมถึงสภาพของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและพิการจากอุบัติเหตุทางถนน นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นๆ ที่ใช้ในการสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกอีกหลายมาตรการ เช่น การช่วยเหลืองานมูลนิธิร่วมกตัญญู กิจกรรมเครือข่ายเหยื่อเมาแล้วขับ การช่วยเหลืองานของเจ้าพนักงานตำรวจด้านจราจรตามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือความปลอดภัยบนท้องถนนร่วมกับองค์กรอื่นๆ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อสังคม

Advertisement

นายประสารยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้กระทำผิดคดีขับรถขณะเมาสุราในช่วงเทศกาลปีใหม่เป็นผู้ที่เคยกระทำผิดมาก่อนในคดีเดียวกัน จำนวน 153 ราย ซึ่งกรมคุมประพฤติจะดำเนินการคัดกรองตามแบบประเมินพฤติกรรมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หากพบว่ามีความเสี่ยงสูงในการติดสุราหรือติดสุราแล้ว จะส่งต่อเพื่อเข้ารับการบำบัดรักษาฟื้นฟูสภาพต่อไป ส่วนผู้ที่ได้รับการคัดกรองว่ามีความเสี่ยงในการติดสุราระดับกลางหรือระดับต่ำ จะจัดให้ทำงานบริการสังคมและรับการอบรมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายจราจรและการลดเลิกแอลกอฮอล์

ด้านนายแพทย์อัษฎางค์กล่าวว่า ในกรณีเป็นผู้เสพติดสุราและมีปัญหาซับซ้อน จะส่งต่อโรงพยาบาลสังกัดกรมการแพทย์ และในกรณีผู้มีอาการทางจิตรุนแรง ส่งต่อโรงพยาบาลสังกัดกรมสุขภาพจิต ทั้งนี้ เพื่อให้ผู้มีปัญหาการดื่มสุราในระดับความเสี่ยงสูง หรือผู้ติดสุรารุนแรงและเรื้อรัง สามารถลด ละ เลิกการดื่มสุรา ตลอดจนสุขภาวะดีทั้งกายและใจอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ และไม่หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำอีก
สำหรับผู้เข้ารับการบำบัดในสถานพยาบาลตามโครงการบำบัดฟื้นฟูสภาพผู้ดื่มแล้วขับ ถูกจับ ผิดซ้ำ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ในเบื้องต้นจำนวน 4 ราย ได้แก่ 1.โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชตะพานหิน จังหวัดพิจิตร จำนวน 1 ราย 2.โรงพยาบาลลำปาง จังหวัดลำปาง จำนวน 1 ราย 3.โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี จำนวน 2 ราย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image