ความคืบหน้าหลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม จับกุมตัวคำนายรณชิต บำรุงจิตร์ อายุ 52 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหา ”พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร” โดยจับกุมได้ที่หอพักแห่งหนึ่วย่าน ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อคืนวานนี้ (10 มกราคม) หลังก่อเหตุพาตัวน้องโยโย่ อายุ 14 ปี หายออกจากโรงเรียนตั้งแต่ช่วงบ่ายวันที่ 27 ธันวาคม 2561 ต่อมา ตำรวจกองปราบปรามพบเบาะแสจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือของน้องโยโย่ว่าอยู่ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงประสานชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจร CCTV ของเทศบาลนครเชียงใหม่ กระทั่งพบว่านายรณชิตขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125 สีแดง ทะเบียน ลนร 266 กรุงเทพมหานคร มีน้องโยโย่ซ้อนท้าย ผ่านบริเวณถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง และบริเวณสี่แยกศาลเด็ก เจ้าหน้าที่จึงแกะรอยจนสามารถจับกุมตัวได้ที่หอพักดังกล่าว
ล่าสุดเช้าวันที่ 11 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สถานีตำรวนครบาลพลับพลาไชย 1 เดินทางมารับตัวนายรณชิต ซึ่งถูกนำตัวมาฝากขังไว้ที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีในข้อหาพรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปีฯ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายรณชิตออกจากห้องคุมขัง ผู้สื่อข่าวได้พยายามสัมภาษณ์ แต่นายรณชิตไม่ยอมพูดจา และมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะถูกนำตัวขึ้นรถยนต์เดินทางไปยังท่าอากาศยานเชียงใหม่ เพื่อขึ้นเครื่องบินเวลา 12.20 น.
สอบนาน 4 ชม. หนุ่มรุ่นพ่อรับพา ‘โยโย่’ ซ้อน จยย.จาก กทม.ขึ้นเชียงใหม่ แวะนอนพักรายทางก่อนถูกตามรวบ
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับนายรณชิต ผู้ต้องหา เป็นพ่อของเพื่อนนักเรียนโรงเรียนเดียวกับน้องโยโย่ และยังมีความสนิทสนมกับแม่ของน้องโยโย่เป็นพิเศษ จึงได้อาสาเป็นครูสอนพิเศษให้กับน้องโยโย่จนเกิดความใกล้ชิดกัน กระทั่งก่อเหตุพาตัวน้องโยโย่หายออกจากบ้าน โดยพาขี่รถจักรยานยนต์จากกรุงเทพฯ มาตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ก่อนจะถูกจับกุมตัวได้ช่วงค่ำวานนี้ รวมเวลาที่พาน้องโยโย่หายตัวออกจากบ้านนานกว่า 2 สัปดาห์
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายรณชิตรับสารภาพว่าเป็นคนพาน้องโยโย่มายังจังหวัดเชียงใหม่จริง แต่ปฏิเสธการตอบคำถามเรื่องความสัมพันธ์และการล่วงละเมิดทางเพศ แต่จากการสืบสวนทราบว่านายรณชิตมีลูกสาวที่เป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกับน้องโยโย่ จึงรู้จักกับน้องโยโย่และครอบครัวมานานกว่า 7-8 ปี กระทั่งน้องโยโย่มีปัญหาครอบครัว นายรณชิตจึงเข้ามาปลอบใจก่อนจะนัดหมายพากันขี่รถจักรยานยนต์เพื่อไปท่องเที่ยว โดยออกจากรุงเทพฯ และพักค้างแรมตามจังหวัดต่างๆ จนมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ในวันที่ 8 มกราคม
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ชุดสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลพลับพลาไชย ได้เดินทางไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อสอบปากคำน้องโยโย่เพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม.แจ้งว่า วันนี้ได้พาตัวน้องโยโย่ไปตรวจร่างกายเพื่อหาร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศเพิ่มเติม จากนั้นจะส่งผลการตรวจให้เจ้าหน้าที่ต่อไป โดยหากพบร่องรอยการถูกล่วงละเมิดทางเพศก็จะดำเนินคดีกับนายรณชิตเพิ่มเติมอีกหนึ่งคดี
‘โยโย่’ปลอดภัยดี ‘ผู้การก้อง’บอกหมดหน้าที่กองปราบ ให้สน.พลับพลาไชยทำสำนวน
ด้านนางจิราพร เชาว์ประยูร ยามาโมโต้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า หลังพบตัวน้องโยโย่นักสังคมสงเคราะห์ได้เข้าพูดคุยกับเด็กราว 3 ชั่วโมง พบว่า ยังมีสภาวะความเครียดและอ่อนเพลีย แต่ยืนยันว่าไม่ได้ถูกล่อลวง ขณะที่ในวันนี้ พม.เชียงใหม่ ได้แจ้งผู้ปกครองของน้องโยโย่ให้เดินทางมาที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อพูดคุยสอบถามปัญหา โดยน้องโยโย่ยังคงอยู่ในความดูแลของ พม.เชียงใหม่ ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ และหลังจากนี้จะรอให้น้องโยโย่สบายใจและพร้อมที่พูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันจะให้กลับไปอยู่กับครอบครัวได้เมื่อใด แต่จะต้องประเมินความพร้อมทั้งของครอบครัวและตัวของน้องโยโย่ โดยต้องยึดประโยชน์สูงสุดของตัวเด็กเป็นสำคัญ
จนท.พา ‘น้องโยโย่’ ตรวจร่างกายจ่อหาหลักฐานล่วงละเมิด จ่อเพิ่มข้อหาข่มขืนเด็กต่ำ 15 ปี
