เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 14 มกราคม ที่ กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. สั่งการให้ พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 บก.ป. พ.ต.ท.ปกรษณ์เกียรติ พงษ์ธนนิกร สว.กก.2 บก.ป. นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กก.2 บก.ป. จับกุม นางอังคนา เมาส์ฮัมเมอร์ อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/2 ม.10 ต.นครสวรรค์ตก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ตามหมายจับศาลจังหวัดนครสวรรค์ ที่ 492/2549 ลงวันที่ 3 ก.ค.2549 ข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 196 ม.19 ต.รางหวาย อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2549 นางอังคนา ผู้ต้องหารายนี้ได้ร่วมกับนายสุรชัย แสงสว่าง กิ๊กหนุ่มชาวไทย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีก1รายที่ยังอยู่ระหว่างการหลบหนี ก่อเหตุลวงนายวินส์เฟรท์ เมาส์ฮัมเมอร์ สามีชาวเยอรมัน มาฆาตรกรรมด้วยการใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิตภายในรถที่ริมถนนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ เพื่อหวังผลเอาเงินประกันจำนวนกว่า 10 ล้านบาทของผู้ตาย โดยหลังก่อเหตุผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ทำทีจัดฉากว่านายวินส์เฟรท์ มีปัญหาขับรถปาดหน้ากับเด็กวัยรุ่นแล้วเกิดมีปากเสียงกันขึ้น ก่อนจะถูกเด็กวัยรุ่นตามมายิงจนเสียชีวิต แต่เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายไม่ปักใจเชื่อเนื่องจากพบพิรุธเกี่ยวกับสาเหตุการเสียชีวิตหลายอย่างที่ขัดแย้งกับพยานหลักฐาน ก่อนจะมาสืบทราบความจริงในถายหลังว่าคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุฆาตกรรมนายวินส์เฟรท์ นั้นคือผู้ต้องหาทั้ง 2 รายนี้จึงรวบรวมพยานหลักฐานก่อนขออำนาจศาลอนุมัติหมายจับ กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่า นางอังคนา ได้หลบหนีมาประกอบอาชีพแม่ค้าขายโรตีและกบดานซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี จึงนำกำลังเข้ามำการจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นางอังคนา ผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธ และไม่ขอให้รายละเอียดใดๆในขั้นสอบสวน โดยขอให้การในชั้นศาลเพียงเท่านั้น เจ้าหน้าที่จึงแต้งข้อกล่าวหาตามหมายจับก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครสวรรค์ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป