ความคืบหน้ากรณีคนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงนางอาดะ แห่งิ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 665/พ ม.4 ต.ท่าก๊อ องแม่สรวย จ.เชียงราย และนางนะอือ จะจู๋ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 บ้านดอยมด ม.8 ต.เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ภายในบ้านสวนท้ายหมู่บ้านเมืองน้อย ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย จนเสียชีวิตจำนวน 2 ศพ เหตุเมื่อค่ำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ล่าสุดง ร.ต.อ.ร.ต.อ.วิศิษฐ์ ตามจิตต์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่เจดีย์ เจ้าของคดี ได้สอบปากคำพยานอย่างน้อย 3 ปาก โดยเฉพาะนายอากู่ แห่งิ อายุ 33 ปี สามีใหม่ของนางนะอือ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์แต่รอดชีวิตมาได้ จนแน่ชัดว่าผู้ลงมือก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้คือนายจะหมูป่า ปะป่า อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/พ ม.8 ต.แม่เจดีย์ใหม่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย สามีเก่าของนางนะอือ หรือที่ชาวบ้านรู้จักกันดีในชื่อนายกุ๊ จึงได้ขอออกหมายจับต่อศาลแขวงเวียงป่าเป้า ซึ่งศาลก็ได้อนุมัติออกหมายจับในข้อหาฆ่าคนตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธไว้ในครอบครองพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร
ร.ต.อ.วิศิษฐ์เปิดเผยว่าจากพยานหลักฐานและพยานบุคคลที่รวบรวมได้ในที่เกิดเหตุค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่านายจะหมูป่า ปะป่า ราษฎรบ้านเมืองน้อยซึ่งตอนนี้ได้หลบหนีไปพร้อมอาวุธปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุ ได้เป็นผู้ลงมือยิงทั้ง 2 คนจริง โดยลงมือเพียงลำพัง โดยมีมูลเหตุสำคัญในเรื่องความขัดแย้งในเรื่องของครอบครัวระหว่างสามีเก่ากับสามีใหม่ ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้ให้ทางชุดสืบสวนลงพื้นที่ควานหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี ในส่วนพนักงานสอบสวนก็รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินคดี ซึ่งตอนนี้เชื่อว่าอาจจะยังคงหลบหนีไปไม่ไกลอาจเข้าไปอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งทางชุดสืบสวนกำลังประสานตำรวจท้องที่เพื่อติดตามจับกุมตัวช่วยอีกทางหนึ่งแล้ว
สำหรับนายจะหมูป่า ผู้ก่อเหตุยิงนางนะอือ อดีตภรรยาและยิงนางอาดะ ซึ่งเป็นแม่ของสามีใหม่ ถือเป็นเหตุสะเทือนที่ทางชาวบ้านและญาติๆของผู้ตายไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากนายจะหมูป่า ได้เลิกรากับนางนะอือไปนานกว่า 6 ปีแล้ว เนื่องจากเป็นคนที่มีนิสัยเกเร ชอบทำร้ายภรรยาอีกทั้งชอบดื่มเหล้าเมามาย ปกติจะไม่ค่อยอยู่ในพื้นที่โดยไปมาระหว่างหมู่บ้านและพื้นที่ จ.ลำปาง ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งอาศัยตามบ้านสวนของชาวบ้านเป็นที่พัก ทำให้เจ้าหน้าที่จึงเชื่อว่านายจะหมูป่ายังคงไม่หลบหนีไปไหนไกลเพราะไม่มีญาติหรือบุคคลรู้จักในพื้นที่อื่น
