กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ ชุดปราบปรามยาเสพติด บก.น.4 ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดที่บริเวณซอยร่มเกล้า 6 แขวงและเขตมีนบุรี จำนวน 5 ราย และต่อมาได้เกิดเหตุชุลมุนขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่กับนักเรียนช่างเทคโนโลยีบางกะปิ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิงรัวใส่นักเรียนช่าง จนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เหตุเกิดเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 11 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.น. เปิดเผยถึงกรณีเหตุยิงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.4 และนักศึกษาวิทยาลัยชื่อดังย่านบางกะปิเสียชีวิตว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจนครบาล 4 (บก.น.4) เข้าไปเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ส่วนเป็นการป้องกันตัวหรือไม่ เท่าที่ได้รับรายงานลักษณะเหตุการณ์เป็นแบบนั้น แต่สั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รอง ผบช.น. ดูแลงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รอง ผบช.น. ดูแลงานสืบสวน ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมดเป็นอย่างไร
เมื่อถามว่า มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า สั่งการให้ทางรอง ผบช.น. ตรวจสอบก่อนว่าข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร มีความสลับซับซ้อนอย่างไรหรือไม่ แต่การตั้งคณะกรรมการลงไปตรวจสอบนั้น ต้องขอเวลาพิจารณาสักระยะเกี่ยวกับเหตุการณ์เบื้องต้นทั้งหมดก่อน เนื่องจากหากคดีดังกล่าวไม่มีความซับซ้อนคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบคดีดังกล่าว จากที่ได้รับรายงานมาว่าที่ตัวผู้ตายพบทั้งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ยังเหลืออยู่ แต่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่วนตำรวจกระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่ หากเป็นไปตามเท่าที่รับรายงานมาก็คงจะไม่เป็นอะไร เพียงแต่ว่าต้องขอตรวจสอบรายละเอียดให้ครบถ้วนก่อนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งหมด ผู้ที่เสียชีวิตและผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำกล่าวอ้างนั้นด้วย
เมื่อถามว่า หากเป็นกรณีเจ้าหน้าที่อาสาช่วยเหลืองานตำรวจเป็นผู้ก่อเหตุนั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่อาสาเป็นผู้ก่อเหตุหรือไม่ เท่าที่ได้รับรายงานมาเบื้องต้นทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ ส่วนมีคนนอกอย่างไรยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตาม หากภัยใกล้ถึงตัวแม้แต่กระทั่งจะป้องกันคนอื่นหรือภัยที่จะเกิดจากคนอื่น ทุกคนสามารถที่จะกระทำได้ ขอเพียงอย่างเดียวฝั่งตรงข้ามจะต้องเป็นผู้ยิงออกมาด้วย หรือยิงก่อน เพราะฉะนั้นยิงก่อนเจ้าหน้าที่ผู้สนับสนุนช่วยเหลือที่จะป้องกันภัยให้กับตนเองและคนอื่น ถ้าเป็นลักษณะแบบนั้นคงไม่เป็นไร แต่ขณะนี้ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าคนที่นั่งอยู่บนรถถูกยิงอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นคู่อริต่างสถาบันยิงเข้ามา ทางฝ่ายของเจ้าหน้าที่ก็ยิงป้องกันตัว แต่ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงดังกล่าวต้องรอผลการสอบสวนพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเฉพาะคนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยังอยู่ระหว่างการประสานงานในการสอบสวนเพราะเป็นเยาวชน
ด้าน พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 กล่าวว่า กรณีดังกล่าวคนยิงเป็นตำรวจขับรถปิกอัพ ขณะเกิดเหตุคนตายไม่ได้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จับกุมยาเสพติดแต่อย่างใด แต่เนื่องจากเมื่อวานที่ผ่านมาเป็นวันสถาปนาสถาบันเทคโนโลยีชื่อดังย่านบางกะปิ จึงมีกลุ่มเด็กเรียนนักศึกษาขับขี่รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณถนนร่มเกล้าและถนนรามคำแหงเป็นจำนวนมาก ระหว่างที่ชุดสืบสวน บก.น.4 ปฏิบัติหน้าที่ได้รายงานให้ทราบว่าคนตายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้มาชี้หน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ขับรถปิกอัพดังกล่าว จากนั้นขับแซงขึ้นมาคล้ายกับต้องการให้รถหยุด จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้ต้องหาที่อยู่บริเวณท้ายกระบะ ก่อนที่จะจ่อยิงกระจกด้านข้างของคนขับรถ จากนั้นจึงมีการยิงต่อสู้กันโดยที่ผู้ตายใช้อาวุธปืนลูกโม่ยิงจนหมด 6 นัด ภายในตัวของผู้ตายยังมีอาวุธมีดและลูกกระสุนสำรองอีก 6 นัด
