แม่โร่ร้องตร.หนุ่มใหญ่คนคุ้นเคย ลวงลูกสาววัย 12 ขืนใจบนตึกร้างย่านรามคำแหง

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 13 กุมภาพันธ์ น.ส.ใหญ่ (นามสมมุติ) อายุ​ 40​ ปี พร้อมด้วย​ ด.ญ.เล็ก (นามสมุมติ) อายุ 12​ ปี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ​พ.ต.ต.ประยูร​ ทองนู่น​ สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ว่า ด.ญ.เล็ก ลูกสาวถูกชาย​ 2 คน​ ล่อลวงเข้าไปข่มขืนในอาคารร้างสูง 7 ชั้น​ บริเวณถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.

น.ส.ใหญ่ เปิดเผย​ว่า​ เมื่อเวลา ​18.00​ น.​ วันที่ 13กุมภาพันธ์ นายไก่และนายหนุ่ม​ อายุ​ 40​ ปี​ ซึ่งเป็นคนรู้จักได้โทรศัพท์มาบอกว่า​ จะพา​ ด.ญ.เล็ก ลูกสาวออกไปซื้อขนม​ในละแวกใกล้เคียงบ้านพักย่านรามคำแหง​ กระทั่งช่วงหัวค่ำพยายามติดต่อแต่ติดต่อไม่ได้​ ก่อนที่จะพบลูกสาวเดินอยู่ย่านบ้านพัก​ เมื่อสอบถามจึงทราบว่า​ นายไก่และนายหนุ่มได้พาไปกระทำชำเราที่ตึกร้างตรงข้าม​โรงพยาบาลรามคำแหง​ จึงรีบพาตัวลูกสาวเดินทางเข้าแจ้งความทันที

ด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.). กล่าวว่าได้รับรายงานจาก สน.หัวหมาก ว่าตามวันเวลาเกิดเหตุผู้แจ้งได้รับแจ้งจากเด็กหญิงซึ่งเป็นบุตรสาว ว่าเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันเกิดเหตุ ได้มีชายชื่อบังนัท ไม่ทราบชื่อสกุลจริง อายุประมาณ 40 ปี ได้มารับบุตรสาวของตนไปที่ตึกร้างท้ายซอยรามคำแหง 81/4 จากนั้นได้ข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง จนกระทั่งต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. เมื่อเด็กหญิงได้กลับมาที่บ้าน น.ส.ใหญ่ ผู้แจ้งได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้พาเด็กหญิงผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้าย

“พนักงานสอบสวนได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และส่งตัวเด็กหญิงผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ และจะดำเนินการสอบสวนปากคำต่อหน้าสหวิชาชีพ จากนั้นจะยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอนุมัติออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ อีกทั้งฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด แสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมกับออกติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อจับกุมกลับมาดำเนินคดี คดีนี้คืบหน้าไปมาก ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องไปบ้างแล้ว รอผลตรวจร่างกายของเด็กหญิงผู้เสียหายจากแพทย์ และการสอบปากคำเด็กหญิงผู้เสียหายต่อหน้าสหวิชาชีพ  เบื้องต้นสามารถพิสูจน์ทราบถึงตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อออกหมายจับคนร้ายที่ก่อเหตุ อีกทั้งฝ่ายสืบสวนเองได้ลงพื้นที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงพร้อมออกติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี”รองโฆษกตร.กล่าว

Advertisement

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้กำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว สอบสวนให้สิ้นกระแสความในทุกประเด็น อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์หรือพยานหลักฐานที่ชี้ถึงตัวผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนเองให้ทำงานคู่ขนานกับฝ่ายสอบสวน ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและข้อมูลพยานหลักฐานที่มีความเกี่ยวข้องในคดีดังกล่าว ดำเนินการบูรณาการข้อมูลด้านการสืบสวนสอบสวนอย่างเป็นระบบ และขั้นตอนในการอำนวยความยุติธรรมแก่ผู้เสียหาย เพื่อเป็นหลักประกันไปสู่กระบวนความยุติธรรมที่มีมาตรฐานสากล และต้องสามารถนำผู้ก่อเหตุมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ได้โดยเร็ว เพื่อเยียวยาความเสียหาย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนและสังคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image