จากกรณีเกิดเหตุการณ์บุกเข้ารุมทำร้าย ในโรงเรียนวัดสิงห์เมื่อช่วงบ่าย 24 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยทางโรงเรียนมีการสอบ PAT2 และ PAT5 ของนักเรียน ซึ่งเป็นการสอบระดับประเทศ จึงเดินไปบอกทางประชาสัมพันธ์ให้ทางวัดสิงห์ ชึ่งขณะนั้นมีงานบวชลดเสียงเบาลง จึงเป็นเหตุให้วัยรุ่นไม่พอใจ ยกพวกหลายสิบคนมาที่โรงเรียนวัดสิงห์ รุมทำร้ายครูกับนักเรียนจนได้รับบาดเจ็บหลายคน มีรายงานว่าได้ส่งตัวคนเจ็บไปรักษายังโรง พยาบาลหลายคน คนที่บาดเจ็บมี ผอ.โรงเรียนวัดสิงห์ ครู เจ้าหน้าที่ รปภ. มีนักเรียนชายและหญิงจำนวนหนึ่ง
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ น.ส.น้ำหวาน 1 ใน น.ร.ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ได้เดินทางมาสอบในช่วงบ่าย ระหว่างที่สอบได้ยินเสียงเพลงดังมาจากวัด ซึ่งยังทำข้อสอบต่อไป กระทั่งใกล้สอบเสร็จช่วงเวลา 15.00 น. ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากกลุ่มวัยรุ่นที่ด้านล่าง จากนั้นเห็นกลุ่มวัยรุ่นขึ้นมาชั้นสาม ที่ตนสอบอยู่ และพุ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายนักเรียนชายที่สอบอยู่ จึงเกิดความชุลมุน ครูที่คุมสอบก็ตะโกนให้วิ่งหนี ขณะกำลังจะวิ่งหนีก็ถูกชายคนหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นกระชากแขนไป และลากลงมาชั้นสอง พูดจาลวนลาม และหอมแก้ม พร้อมกับพูดว่า “ครูโรงเรียนน้องเดินไปบอกพวกพี่ให้เงียบ เพราะเสียงดัง จ้างวงดนตรีมา 20,000 บาท แต่ไม่ให้เปิด ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้น้องจะโกรธไหม” ซึ่งตนก็ตอบไปด้วยความกลัวว่า “โกรธ” เพราะเนื่องจากก่อนหน้านี้ ตนเห็นว่าหากกลุ่มวัยรุ่นเห็นเด็กนักเรียนคนไหนเดินผ่านก็จะตบหน้า
น.ส.น้ำหวานกล่าวอีกว่า ขณะที่ถูกลากชายคนดังกล่าวก็ถามว่าบ้านอยู่ที่ไหน ตนจึงตอบว่าอยู่บางบอน ชายดังกล่าวในกลุ่มจึงบอกว่า “รู้จักกำนันแม้นไหม ให้ไปถามกำนันแม้น ตนไม่กลัว” (อ่านข่าว เปิดประวัติ ‘กำนันแม้น’ จากคำบอกเล่าชาวบ้าน หลังโจ๋งานบวชอ้างชื่อ ก่อนลวนลามน.ร.วัดสิงห์) หลังจากนั้นกลุ่มวัยรุ่นก็พยายามโอบไหล่ และพยายามผลักให้ไปหาเพื่อนคนอื่น เมื่อสบจังหวะตนจึงรีบวิ่งหนีออกมา ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ก็รู้สึกกลัวมาก หากกฎหมายไม่สามารถเอาผิดกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ ครอบครัวของตนก็จะเป็นอันตรายอย่างมาก และวันนี้คุณพ่อได้เดินทางมาแจ้งความซ้ำ และชี้ตัวผู้ที่ก่อเหตุ ซึ่งตนจำได้ดีว่าเป็นชายสูง ผิวคล้ำอายุประมาณ 30 ปี ซึ่งหลังจากนี้อยากให้ตำรวจดำเนินการให้เสร็จสิ้น เพราะเหตุครั้งนี้สร้างความเสียขวัญให้นักเรียนหลายคนไม่กล้าขึ้นห้องสอบและอาจส่งผลเสียในอนาคต
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่