“บิ๊กอวบ” ติดตามคดีโจ๋รุมทำร้าย ผอ.-นักเรียน รร.วัดสิงห์

เมื่อเวลา 10.45น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ สน.บางขุนเทียน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้ากลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคนรุมทำร้ายร่างกาย นายบุณยพงศ์ โพธิวัฒน์ธนัต ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู พนักงานรักษาความปลอดภัย และ นักเรียนโรงเรียนมัธยมวัดสิงห์บาดเจ็บกว่า 12 ราย และลวนลามนักเรียนหญิงบางส่วน ก่อนเข้ารื้อค้นทำลายทรัพย์สินในอาคารเรียน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา หลังทางโรงเรียนขอความร่วมมือให้ลดใช้เสียงแตรวงแห่นาคในงานบวช เนื่องจากทางโรงเรียนอยู่ระหว่างการสอบ แต่สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมงานบวชดังกล่าว ก่อนผู้ก่อเหตุบางคนทยอยเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.บางขุนเทียน

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวว่า ทางศาลออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 24 คน ข้อหา “ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ” “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ” “ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน” และ “ทำลายทรัพย์สิน” ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 24 คน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สน.บางขุนเทียน แล้วหากพบว่าเข้าข่ายความผิดอื่นอีก ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ซึ่งเชื่อว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่านี้ และยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมต่อไป

ต่อมา พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ เดินทางเข้าให้กำลังใจกับครูอาจารย์และนักเรียน ที่โรงเรียนมัธยมวัดสิงห์ พร้อมกล่าวชี้แจงกับบุคลากรว่า ทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดยยืนยันว่าจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและจริงจังเด็ดขาดตามกรอบของกฎหมายเพื่อไม่ให้นำไปกระทำเป็นเยี่ยงอย่างได้อีก ทั้งนี้ หากประชาชนพบเหตุการณ์การกระทำผิด ขอแนะนำให้โทรศัพท์แจ้งไปยังสายด่วน 191 หรือแอพพลิเคชั่น POLICE I Lert U เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งทำการตรวจสอบโดยเร็วต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวที่ห้องควบคุมผู้ต้องขัง สน.บางขุนเทียน มีญาติผู้ต้องหาหลายรายเดินทางเข้าเยี่ยมพร้อมนำอาหารมาให้

ด้าน พ.ต.อ.ลือศักดิ์ ดำเนินสวัสดิ์ ผกก.สน.บางขุนเทียน กล่าวว่าจากการสอบปากคำกลุ่มผู้ต้องหาทราบว่ามูลเหตุจูงใจเกิดจากความไม่พอใจที่ไม่ให้ใช้เครื่องเสียงที่เช่ามาใช้ในงานบวชเท่านั้น โดยเหล่าผู้จัดคนอื่นๆ ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการกระทำผิดด้วย ขณะที่กลุ่มผู้ต้องหาไม่ได้เป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล เป็นเพียงกลุ่มกลองยาวในพื้นที่เท่านั้น อีกทั้ง เมื่อตรวจสอบหาสารเสพติดก็ไม่พบแต่อย่างใด เบื้องต้นศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุจำนวน 20 รายข้อหา “ร่วมกันบุกรุกสถานที่ราชการ” “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บ” “ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน” และ “ทำลายทรัพย์สิน” ส่วนข้อหาอื่นยังต้องสอบพยานว่าแต่ละคนลงมือก่อเหตุอะไรบ้าง เพราะบางรายทำร้ายร่างกาย บางรายทำลายทรัพย์สิน แต่กระทำอนาจาร มีรายเดียว ถูกคุมขังอยู่ และค่อนข้างมีอายุแล้ว แต่ยังต้องรอสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนแจ้งข้อหากระทำ อนาจาร
เนื่องจากรายละเอียดการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมนั้น ต้องแยกประเด็นของผู้ต้องหาแต่ละราย เนื่องจากมีบางรายไม่ได้ทำร้ายร่างกาย หรืออาจแค่เข้าไปยื่นเฉยๆ

Advertisement

นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 4 รายที่เป็นเยาวชน ซึ่งจะมีการพิจารณาข้อกล่าวหาต่อไป รวมถึงยังต้องทำการสอบปากคำผู้เสียหาย ทราบว่ามีเด็กหญิงอายุ 18 ปี รายหนึ่งที่ถูกลวนลาม ยังไม่ได้เข้าให้ปากคำแต่อย่างใดเนื่องจากติดสอบ โดยการขัดขวางการสอบของนักเรียนไม่ได้ระบุเป็นความผิดทางกฎหมายอาญา หากแต่ว่าทางโรงเรียน หรือ กระทรวงศึกษาธิการอาจจะมีกฎหมายพิเศษอย่างไรหรือไม่

สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด 20 ราย ที่ถูกอนุมัติหมายจับและถูกจับกุมประกอบด้วย นายวัลลภ นุชแฟง อายุ 32 ปี นายจีรศักดิ์ นีละเสวี อายุ 41 ปี นายสมชาย แก้วสิมมา อายุ 26 ปี นายชัชศิริ แซ่โง้ว อายุ 39 ปี นายธวัช สดำพงษ์ อายุ 33 ปี นายณัฐพงศ์ นุชแฟง อายุ 18 ปีเศษ นายมนตรี พูลทรัพย์ อายุ 32 ปี นายวรภัทร พินิจปรีชา อายุ 28 ปี นายอนุกูล สังข์ศรี อายุ 33 ปี นายจิรายุทธ อาจอาสา อายุ 25 ปี นายธิติ ไวยสุกรี อายุ 26 ปี นายเมืองแมน นิลโพธิ์ทอง อายุ 18 ปีเศษ นายชาติสยาม จันทรวิภาค อายุ 24 ปี นายวิโรจน์ คำชาย อายุ 28 ปี นายดลราม เก่งวิชา อายุ 27 ปี นายขวัญชัย สุขเสมอ อายุ 29 ปี นายศรายุทธ นุชแฟง อายุ 24 ปี นายเอกลักษณ์ พูลทรัพย์ อายุ 26 ปี นายไน้ท จ้อยเจริญ อายุ 20 ปี และนายชนะชัย ใจหล้า อายุ 25 ปี

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image