ใต้โหดบุกจับ 2 ส.ต.ท.นราฯ ชิงรถ ปล้นปืน ก่อนฆ่าทิ้ง ‘จักรทิพย์’ ประณาม-สั่งล่าตัว!!

ใต้โหดบุกจับ 2 ส.ต.ท.นราฯ ชิงรถ ปล้นปืน ฆ่าทิ้ง ‘จักรทิพย์’ ประณาม พร้อมสั่งล่าตัว!!

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีเหตุคนร้ายหลายรายทำการปล้นทรัพย์และจับตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 2 นาย พร้อมอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจหลบหนีไปจากจุดเกิดเหตุ ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.เจาะไอร้อง ภ.จว.นราธิวาส ว่า เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลาประมาณ 19.30 น. ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายหลายรายร่วมกันปล้นทรัพย์รถยนต์และอาวุธปืนประจำกายของตำรวจ หลบหนีไปจากสถานที่เกิดเหตุ

จากการสืบสวนสอบสวนในเบื้องต้นพบว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ตำรวจทั้ง 2 นาย นั่งอยู่ภายในบ้านเลขที่ 30 หมู่ 2 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จว.นราธิวาส ได้มีคนร้ายจำนวนหลายรายแต่งกายชุดดำ รองเท้ายาง และชุดลายพลางได้เข้ามาจับตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย 2 นาย พร้อมยึดเอาอาวุธปืนประจำกายของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วย ขึ้นรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ สีฟ้า 4 ประตูซึ่งเป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลบหนีไปจากสถานที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ ตร.ที่ถูกจับตัวไปทราบชื่อภายหลังคือ ส.ต.ท.นเรศ เอียดทอง นปพ.ฉก.31 และ ส.ต.ท.รุสไวดี สาแม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ต่อมาได้พบศพเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิตแล้ว บริเวณคูน้ำห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร

รองโฆษก ตร.กล่าวว่า พล.ต.ต.ดุษฏี ชูสังกิจ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส พร้อมผู้บังคับบัญชา และ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ และร่วมกับแพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพ ถ่ายภาพทำแผนที่เกิดเหตุ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น น่าเชื่อว่าเกิดจากฝีมือของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มุ่งหวังต่อชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐ

Advertisement

“ขอประณามผู้ก่อเหตุและผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและกำชับผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องดูแลสวัสดิการ สิทธิประโยชน์อย่างใกล้ชิดอย่าขาดตกบกพร่อง พร้อมสั่งการให้เร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน รวมทั้งให้ยึดมั่นในการบังคับใช้กฎหมาย ตามพยานหลักฐาน พยานบุคคล พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมไปถึงการควบคุมตัวผู้ก่อเหตุมา สอบสวน ซักถาม ขยายผล และดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเน้นย้ำว่า หากเกิดเหตุขึ้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจักต้องสืบสวนสอบสวน จนสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทันท่วงที เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชน นักท่องเที่ยวและนักลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที” รองโฆษก ตร.กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image