ผบ.ตร.ฮึ่ม! ปืนหลวงหาย ตำรวจเป็นโจรสั่งฟันเด็ดขาด ยังล่าอีก1แก๊งส.ต.ท. คนซื้อโดนด้วย

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยกรณี อาวุธปืนของกองกำกับกสรสืบสวน(กก.สส.)ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา หายไปจากคลังอาวุธ ทราบหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลางตรวจยึดได้ ว่าได้รับรายงานจาก ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ว่าจากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า เมื่อ 22 ธ.ค. 61 เวลาประมาณ 02.00 น. ส.ต.ท.สันติ จับเทียน ผู้บังคับหมู่กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ขณะปฏิบัติหน้าที่สิบเวรรักษาการณ์ ได้แอบนำกุญแจคลังอาวุธ เปิดคลังแล้วลักเอาอาวุธปืนไปจำนวน 11 กระบอก นำขายพลเรือนที่ร่วมกันกระทำผิดดังกล่าว จำนวน 3 คน พนักงานสอบสวนจึงได้ยื่น ศาลจังหวัพระนครศรีอยุธยา อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน หรือรับของโจร มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยผิดกฎหมาย” โดยสามารถจับกุมตัวได้แล้ว 3 คน อยู่ระหว่างหลบหนี 1 คน

รองโฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ส.ต.ท.สันติ พร้อมมีคำสั่งให้ออกจากราชไว้ก่อนแล้ว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใส กับทุกฝ่าย โดยในส่วนการดำเนินความผิดทางอาญากับผู้ต้องหาทั้ง 4 รายนั้น พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินตามข้อหาความผิดในข้างต้นและเร่งติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว สำหรับผู้ที่รับซื้ออาวุธปืนดังกล่าวไปจากกลุ่มผู้ต้องหาถือว่าได้กระทำความผิดฐานรับซื้อของโจรด้วย โดยจะขยายผลสืบสวนจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆและดำเนินการติดตามตรวจยึดอาวุธปืนกลับมาโดยเร็ว ยืนว่าจะดำเนินคดีผู้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระความผิดดังกล่าว โดยไม่มีการละเว้นและไม่มีผู้ใดสามารถให้ความช่วยเหลือได้

“พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานด้วยความรอบคอบ โปร่งใส รวดเร็ว เป็นธรรม ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากทำผิดจริง ต้องเอาโทษให้ถึงที่สุด ทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด โดยจะต้องรับโทษหนักกว่าบุคคลธรรมดา เพราะว่าเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายแต่กลับทำผิดเสียเอง โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ไม่เคารพต่อเกียรติของตำรวจ พร้อมทั้งกำชับให้ผู้บังคับบัญชาในทุกระดับชั้น เพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความปลอดภัย สอดส่อง ตรวจตรา ความสงบเรียบร้อย รวมไปถึง มาตรการในการป้องกันเหตุ สำรวจสิ่งของหลวงตามกำหนด โดยเน้นย้ำ อย่าให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก และได้กำชับกองบัญชาการทุกภาคส่วน ให้กำกับ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัด อย่างใกล้ชิด คอยสอดส่อง ดูแล ให้ประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในระเบียบวินัย ตามคำสั่ง ตร.ที่ 1212/2537 โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมาย ไม่ประพฤติปฏิบัติตนเป็นผู้กระทำความผิดเสียเองหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น”พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image