เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 มกราคม ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรสาคร พ.ต.อ.ชัยยุทธ ถมยา ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.มาโนช จันทร์เที่ยง รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร และ พ.ต.ท.พงษ์ศิริ เก่งนอก สว.สส.สภ.เมืองสมุทรสาคร ร่วมแถลงข่าวการจับกุมนายสมเดช ศรีวัฒนประยูร พร้อมด้วยของกลางรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิก สีดำ และโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง โดยกล่าวหาว่า ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะไม่สามารถขัดขืนได้,ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจและลักทรัพย์ในเคหสถาน
พ.ต.อ.ชัยยุทธ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 21.00 น.ของวันที่ 24 ม.ค. น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี ได้มาแจ้งความว่า นายสมเดช ซึ่งเป็นบุคคลที่ติดต่อกันทางแอพพลิเคชั่นบีทอล์ก ได้เดินทางมาหาที่หอพักบริเวณหมู่ 8 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และได้ไปกินข้าวด้วยกัน หลังจากนั้นคนร้ายได้ขอขึ้นไปที่ห้องพัก แต่ตนไม่ยินยอม คนร้ายจึงออกอุบายว่าจะเดินทางกลับโดยขอให้ไปนั่งคุยอีกสักพักที่ศาลาริมทางหน้าหอพัก โดยเมื่อไปถึงศาลาคนร้ายได้พยายามลวนลามแต่ตนขัดขืน คนร้ายจึงได้กระชากกระเป๋าของตนแล้วหลบหนีไป
ต่อมาจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า ผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวมีหมายจับศาลจังหวัดสมุทรสาคร ที่ จ.4/2559 ลงวันที่ 4 มกราคม 2559 ซึ่งได้ก่อเหตุในลักษณะเดียวกันและอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยเหตุเกิดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ติดต่อกับนางน้อย (นามสมมุติ) ทางแอพพลิเคชั่น บีทอล์กและจากนั้นได้เดินทางมาห้องพักไม่มีชื่อ ในซอยศรีเมือง ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แล้วทำการข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายก่อนจะลักทรัพย์ของผู้เสียหายไป มีโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง,เงินสด 2,000 บาท,สร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง 1 เส้นและหมวกกันน็อก 1 ใบ
ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนทราบว่าทั้งสองคดีเป็นคนร้ายคนเดียวกัน จึงได้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ที่ห้องในหอพัก หมู่ 8 ต.บ้านเกาะ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งจากการสอบสวน นายสมเดช ศรีวัฒนประยูร ให้การรับสารภาพว่าตนเป็นหนุ่มโรงงานในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร ได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่ที่ทำไปนั้นเป็นเพราะผู้หญิงทั้งสองคนเป็นแฟนที่ตนติดต่อกันทางแอพพลิเคชั่น บีทอล์ก และด้วยความหึงหวงที่ผู้หญิงจะไปมีแฟนใหม่จึงก่อเหตุขึ้น ซึ่งรายแรกนั้นตนไม่ได้ข่มขืนแต่เป็นเพราะผู้หญิงเต็มใจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้ ซึ่งหลังจากแถลงข่าวแล้วก็ได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
