รวบเครือข่ายลอบขนยาบ้า 8 ล้านเม็ด ไอซ์-โคเคน ค่า 803 ล้านบาท คนร้ายฮึดสู้ยิงสวนตำรวจ โดนวิสามัญดับ 1

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 21 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. ฐานะ ผอ.ศอ.ปส.ตร. ร่วมกับ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. และ พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์,พล.ต.ต.ชาตรี ไพศาลศิลป์ รอง ผบช.ปส.,บก.ปส.1-4 ตำรวจภูธรภาค 5 กองทัพภาคที่ 3 กอ.รมน. และสำนักงาน ป.ป.ส. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญ 3 คดี โดยมีผู้ต้องหาเป็นทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ยึดของกลางเป็นยาบ้า 8 ล้านเม็ด ไอซ์อีก 2.70 กิโลกรัม และโคคาอีนอีก 1.5 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 803,616,000 บาท

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติแถลงว่า คดีแรกเป็นผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดใน จ.เชียงราย ยึดยาบ้าจำนวน 8 ล้านเม็ด จับกุมได้เมื่อกลางดึกวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยตำรวจปราบปรามยาเสพติด ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภูธรแม่จัน จังหวัดเชียงราย จับผู้ต้องหา 2 คน พร้อมยาบ้าดังกล่าวที่บรรจุอยู่ในกระสอบฟางสีรุ้ง และรถกระบะรวม 3 คัน ภายในซอยบ้านศรียางมูล 3 ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย และได้วิสามัญ นายบุญส่ง วูซือกู่ อายุ 27 ปี ที่ใช้ปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ขณะเข้าจับกุม โดยนายบุญส่ง เป็นตัวการคนสำคัญของสมาชิกเครือข่ายลักลอบลำเลียงยาเสพติดที่พบว่ามีพฤติการณ์ลักลอบนำยาเสพติดจากชายแดนเข้ามาในไทยหลายครั้ง โดยในครั้งล่าสุดนี้มีนายทุนเป็นเครือข่ายกลุ่มชาติพันธุ์ ว่าจ้างให้ลักลอบนำยาเสพติดจากกลุ่มอาข่าดอยแม่สะลอง อำเภอแม่ฟ้าหลวง ให้มาส่งต่อกับอีกเครือข่ายที่จะรับของกลางลำเลียงเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายที่เหลือที่มีความเชื่อมโยง ส่วนทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำผิด จะมีการติดตามอายัดทรัพย์ต่อไป

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติกล่าวต่อ คดีที่สอง สืบเนื่องจากตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันจับกุมนายแบมบ้า อดามา (MR.BAMBA ADAMA) อายุ 47 ปี สัญชาติไอวอรีโคสต์ จับกุมได้พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) รวม 70 ก้อน น้ำหนักประมาณ 1,546 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง โดยจับกุมได้เมื่อวันที่ 17 มีนาคมที่ผ่านมา ที่ช่องตรวจของศุลกากร อาคารผู้โดยสารเข้าระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิ

พฤติการณ์คือ เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการเอกซเรย์ตรวจสอบสิ่งของภายในกระเป๋าสะพายข้างของนายแบมบ้า ที่นำขึ้นเครื่องบินมาแล้วไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงได้ทำการสัมภาษณ์ ก่อนพานายแบมบ้าไปเอกซเรย์ร่างกายเพื่อหาสิ่งแปลกปลอมที่โรงพยาบาล ต่อมาพบว่ามีสิ่งของต้องสงสัยอยู่ภายในลำไส้ใหญ่และไส้ตรง จากการสอบถามผู้ต้องสงสัยให้การรับสารภาพว่า ตนได้กลืนวัตถุดังกล่าวเข้าไปภายในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไว้เพื่อรอการขับถ่ายสิ่งแปลกปลอมในระหว่างวันที่ 17-18 มีนาคมที่ผ่านมา กระทั่งพบว่าวัตถุดังกล่าวมีลักษณะเป็นผงขาวบรรจุด้วยพลาสติกใสตามจำนวนที่จับกุมได้ เมื่อทำการตรวจสอบโดยเบื้องต้น พบเป็นยาเสพติดชนิดโคคาอีน จึงดำเนินการแจ้งข้อหานายแบมบ้าฐานกระทำความผิด “นำยาเสพติดโทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักร และครอบครองไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนพร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

Advertisement

คดีสุดท้ายแถลงว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 ทำการสืบสวนจับกุมนายอนุชา กรินวงศา อายุ 28 ปี ชาว อ.เวียงสา จ.น่าน พร้อมของกลาง ไอซ์ รวมทั้งสิ้น 10 ห่อ น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม 2,070 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและพยายามนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) ออกนอกราชอาณาจักรเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต”

คดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันทำการสืบสวนเครือข่ายการลักลอบขนยาเสพติดออกนอกราชอาณาจักร ผ่านสนามบินสุวรรณภูมิ จนเมื่อวันที่ 18 มีนาคมที่ผ่านมา มีรายงานแจ้งว่า พบวัตถุต้องสงสัยอยู่ภายในกระเป๋าสัมภาระของนายอนุชา ที่กำลังรอขึ้นเครื่องอยู่บริเวณห้องโถงผู้โดยสารประตูทางออก E7 จึงประสานเจ้าหน้าที่สายการบินพบนายอนุชา พร้อมกระเป๋าสัมภาระ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและตรวจค้นสัมภาระต่อหน้านายอนุชา

Advertisement

พบว่าในส่วนพื้นของกระเป๋าเดินทางผ้าแบบลากจูงทำเป็นช่องลับ เมื่อเปิดดูพบด้านในมีห่อฟอยล์ มีสัมผัสเป็นเกล็ดของแข็งซุกซ่อนอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดพบผลึกเป็นเกล็ดใสบรรจุในถุงพลาสติกใส จำนวน 10 ห่อ ตรวจสอบน้ำยาทดสอบสารเสพติดให้ผลเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทเมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์ จึงร่วมกันจับกุมนายอนุชา และนำตัวพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3 บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image