เมื่อเวลา17.00 น.วันที่ 29 มีนาคม นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ได้ลงนามอนุมัติแต่งตั้ง พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการตำรวจสันติบาล (ผกก.3 บก.ส.3 ) เป็น ผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย สำนักงานศาลยุติธรรมคนเเรก ว่าเรื่องนี้ตามที่ได้มีประกาศสำนักงานศาลยุติธรรมวันที่ 1มีนาคม ให้รับสมัครคัดเลือกเพื่อโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเเละเเต่งตั้งเป็นข้าราชการศาลยุติธรรม ในตำเเหน่งประเภทอำนวยการระดับต้น เเละได้มีการดำเนินการประเมินความเหมาะสมกับตำเเหน่งโดยมีวิธีการสอบสัมภาษณ์ไปเเล้วนั้น ซึ่งการดำเนินการคัดเลือกเสร็จสิ้น ตนจึงสั่งการให้มีการประกาศรายชื่อ พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เป็นผู้ผ่านการคัดเลือกตำเเหน่ง ผอ.ศูนย์รักษาความปลอดภัย
“ได้มีการเเจ้งเงื่อนไขให้ผู้ผ่านการคัดเลือกทราบเเล้วว่า 1.ทางสำนักงานศาลยุติธรรมจะดำเนินการรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่น โดยเทียบตำเเหน่งตามประเภท สายงาน ระดับ อัตราเงินเดือน กับการการดำรงตำเเหน่งข้าราชการศาลยุติธรรม โดยยึดหลักการให้ได้รับเงินเดือนเเละการเลื่อนระดับ ต้องไม่สูงกว่าข้าราชการศาลยุติธรรม ที่มีคุณวุฒิเเละความสามารถ เเละความชำนาญในระดับเดียวกัน 2.สำนักงานศาลยุติธรรมจะมีหนังสือขอรับโอนไปยังต้นสังกัด หากปรากฎข้อเท็จจริงภายหลังว่า ผู้ขอโอนไม่เหมาะสมกับตำเเหน่งที่รับโอน หรือต้นสังกัดปฏิเสธ หรือให้โอนเเต่ล่าช้ากว่าวันที่สำนักงานศาลยุติธรรมกำหนด สำนักงานศาลยุติธรรม ขอสงวนสิทธิที่จะปฏิเสธการรับโอนผู้นั้น”เลขาศาลฯกล่าว
นายสราวุธ กล่าวว่า 3.เมื่อรับโอนมาเป็นข้าราชการในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมเเล้ว เป็นอำนาจของสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะเเต่งตั้งให้ดำรงตำเเหน่งตามความเหมาะสม หรือมอบหมายให้ปฏิบัติงานอื่นๆซึ่งต่างไปจากตำเเหน่งที่รับโอนมาตามเหตุผล ความจำเป็น เพื่อประโยชน์ของทางราชการ เเละ 4.ผู้ผ่านการคัดเลือก เมื่อรับโอนมาเป็นข้าราชการในสังกัดสำนักงานศาลยุติธรรมเเล้วจะต้องอยู่ปฏิบัติราชการในตำเเหน่งที่ได้รับการเเต่งตั้งเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี โดยห้ามโอนไปส่วนราชการอื่น เว้นเเต่ลาออกจากราชการ หรือโดยความเห็นชอบของเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
