อัยการชี้ เดตไลน์26พ.ค”พระธัมมชโย”ไม่มอบตัว ขอหมายค้นวัด-มองร้อง”โอบามา”เป็นเรื่องโจ๊ก

เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักงานการสอบสวน ที่ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)สอบสวนคดีพระธัมมชโยกล่าวถึงความคืบหน้าคดี หลังศาลมีคำสั่งให้ออกหมายจับพระธัมมชโยว่า อยากให้การดำเนินคดีไปตามกฎหมาย เป็นไปตามกติกาของบ้านเมือง หมายจับออกโดยศาลผ่านการพิจารณาแล้ว เข้าใจความรู้สึกของคนที่ศรัทธา แต่ไม่ได้กระทำโดยพลการเป็นไปตามมติคณะกรรมการ ประกอบด้วย ดีเอสไอ อัยการ และที่ปรึกษาดีเอสไอที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนที่มีการกล่าวหาว่าดำเนินการแต่พระธัมมชโยนั้น ไม่เป็นความจริง ขณะนี้มีการสอบสวนถึงบุคคลที่เข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องการฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นอีกกว่า10คดี และมีคนหลายกลุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องเพราะเงินที่เอามาฟอกนั้นในทางสอบสวนพบว่ามีการนำกระจายไปหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มพระลูกศิษย์ และอีกหลายกลุ่ม การที่มีคนนำเรื่องนี้ไปร้อง ป.ป.ช.ว่าดำเนินการโดยมิชอบและซ้ำซ้อน จากที่เคยสั่งไม่ฟ้องพระธัมมชโยไปแล้วนั้น ความจริงคือ ยังไม่เคยมีการสั่งคดีจากทางอัยการแต่อย่างใด เช่นในคดีแรกทางอัยการมีผลการสั่งคดีแล้วว่าหากการสืบสวนสอบสวนอย่างไรให้ดำเนินการต่อไป ในชั้นนี้ยังไม่เคยมีกรณีการแจ้งข้อกล่าวหาพระธัมชโยแต่อย่างใด แต่เป็นการพิจารณาคดีที่ต่อเนื่องเช่น จากการจับ นาย ก. แล้วก็มาดำเนินการกับนาย ข. เป็นไปตามกฎหมายไม่ใช่จับคนเดียวแล้วหมด จะมีคนถูกดำเนินคดีอีกหลายกลุ่ม นอกจากนี้เรื่องใบรับรองแพทย์เห็นได้ชัดว่าใบรับรองไม่ชอบด้วยกฎหมาย และการพิจารณาออกหมายจับเป็นการพิจารณาโดยพนักงานสอบสวน ก่อนส่งให้ศาลว่ามีเหตุหรือไม่ จริงอยู่ แม้พระธัมมชโยจะอ้างว่าไม่มีการหลบหนี แต่ศักยภาพในการหลบหนีมีสูง ที่เรากลัวคือความวุ่นวายเพราะมีการปลุกระดมคนขึ้นมา ตรงนี้ถ้ามีพฤติการณ์เราจึงเห็นว่าควรให้พระธัมมชโยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อไม่ให้มีปัญหา

นายขจรศักดิ์ กล่าวต่อว่า มีคนถามว่าทำไมไม่เข้าไปสอบในวัด ที่เราเข้าไปครั้งแรกและไปสอบปากคำในฐานะพยาน ขณะนั้นไม่มีปัญหาแต่ในวันนี้พระธัมมชโยมีฐานะเป็นผู้ต้องหา การเข้าไปสถานที่ดังกล่าวเป็นที่รโหฐาน ตามกฎหมายต้องมีหมายค้น การเข้าไปสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาพระธัมมชโยโดยไม่มีการขอหมายค้น และการสอบสวนจะเป็นการสอบสวนที่มิชอบ อย่างไรก็ตามในวันที่26 พฤษภาคมนี้ ที่ดีเอสไอนัดพระธัมมชโยมามอบตัว ถ้าพระธัมมชโยเดินทางมาในวันดังกล่าวจริงจะให้ประกัน คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการสอบปากคำและแจ้งข้อกล่าวหา แต่ไม่ใช่การหลีกเลี่ยงกระบวนการ ส่วนในวันที่23-24 พฤษภาคมนี้จะประชุมกันว่าหากพระธัมมชโยไม่มา จะใช้วิธีการอย่างไรต่อไป แต่หลักใหญ่ๆจะไม่ใช้กำลัง จะเข้าไปอย่างมีเกียรติโดยประการแรกจะไปขอหมายค้นเพื่อเข้าไปตรวจค้น ไม่มีการพกอาวุธเข้าไป และให้เจ้าหน้าที่เข้าไปค้นเฉพาะที่จำเป็น

นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เรายังหวังว่าพระธัมมชโยจะมารายงานตัวและยืนยันว่ต้องเดินทางมาที่ดีเอสไอในวันดังกล่าวโดยไม่ต้องเดินทางไปยังศาลอีก และจะได้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน แต่หากไม่มาแล้วเจ้าหน้าที่เข้าไปภายในวัดแล้วเกิดเหตุที่รุนแรงขึ้นมามาตรการต่างๆจะต้องเปลี่ยนไป แม้ไม่ได้มาจากตัวพระธัมมชโยแต่มาจากสาวกก็อาจต้องคัดค้านการประกันตัวขึ้นมา คราวนี้พระธัมมชโยต้องเดินทางไปขอศาลเพื่อประกันตัวเอง

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับใครหรือไม่ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ยังรอการสอบสวนอยู่ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวใครเพิ่มแต่การฟอกเงินในธรรมกายมีเป็นจำนวนมาก เป็นวงจรที่ไหลเวียน แต่ละคนอยู่ๆมีเงินเข้าบัญชีต้องมีการเรียกให้คนเหล่านั้นมาชี้แจงว่าเป็นเงินเกี่ยวกับอะไร มีมูลหรือไม่ ที่ผ่านมามีการเรียกทนายความของพระธัมมชโยมาชี้แจงถึงกรณีที่เข้าไปพัวพัน เขาชี้แจงว่าเข้าไปแก้ไขปัญหาทางกฎหมายและขอเวลาไปหารายละเอียดเพื่อมาชี้แจงเพิ่มเติม ขณะนี้ทยอยเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำเรื่อยๆ แต่เฉพาะชุดของพระธัมมชโยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วอีก 2 คนและคาดว่าจะมีอีก4-5 คนต่อไปนี้จะขอศาลออกหมายจับอีก 1 คน เป็นผู้หญิงที่เซ็นสลักหลังเช็คเป็นร้อยล้านและหลบหนีไป รวมทั้งกำลังสอบอยู่อย่างที่กล่าวไปว่ามีอีก10กว่าคดี

Advertisement

นายขจรศักดิ์ กล่าวอีกว่า อยากจะขอร้องว่าไม่อยากให้มีการปลุกระดมและไปร้องเรียนแจ้งข้อกล่าวหากับทีมสอบสวน เพราะอย่าลืมว่าแม้จะเป็นสิทธิในการแจ้ง แต่การนำเอาข้อมูลอันเป็นเท็จไปแจ้งความมันจะย้อนกลับมาใส่ผู้แจ้งเอง เพราะการดำเนินการของคณะทำงานไม่ใช่เป็นคนเดียวแต่เป็นรูปแบบคณะทำงาน อย่างไรก็ตามข้อต่อสู้ที่มีการพูดออกมาควรเอาไปใช้ในชั้นศาล

เมื่อถามว่ามีคนวิเคราะห์ว่าการล่ารายชื่อ1แสนชื่อเพื่อหวังผลขอลี้ภัย ตามกฎหมายคดีดังกล่าวสามารถขอลี้ภัยตามหลักสากลได้หรือไม่ นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีฟอกเงินที่เป็นเรื่องของอาชญากรรมเป็นคดีอาญาทางเศรษฐกิจ ไม่ใช่เรื่องลี้ภัยและไม่เข้าใจว่ามีผู้ทำเรื่องนี้ทำไม ส่วนตัวคิดว่าไม่ใช่พระธัมมชโยทำเองเพราะหากทำก็ไม่มีประโยชน์อะไรและตนยังเคยได้ยินท่านพูดเองว่าจะตายคาวัด

“การที่ไปร้องตามที่ต่างๆเช่นศูนย์ดำรงธรรมผมว่ามันไม่ใช่ นี่ไปๆมาๆจะไปหาโอบาม่า ผมยังนึกว่าเรื่องโจ๊ก ถามว่านี่คุณอยู่ประเทศไทยระบบกฎหมายไทยอย่าไปคิดว่าพนักงานสอบสวนทำแล้วจบยังมีการสู้กันในชั้นศาลอีกเยอะ ถ้าวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ท่านไม่มาตามนัดหมาย จะต้องมีเข้าไปในวัดผมก็จะเข้าไปด้วยและไม่หวั่นเกรงการที่เราจะเข้าไปจับกุมบุคคล เราจะต้องขอหมายค้นและเข้าไปอย่างสุภาพบุรุษเข้าใจว่าทางวัดก็จะต้อนรับไม่มีเหตุรุนแรง ตามกฎหมายเมื่อเราเข้าไปตามหมายจับและมีหมายค้นแล้วสามารถแจ้งข้อกล่าวหาในวัดได้เลย แต่ทั้งนี้ต้องรอสรุปจากที่ประชุมก่อนว่าการดำเนินการจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่อยากให้เกิดคือความรุนแรงและไม่อึกทึกคึกโครม”นายขจรศักดิ์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image