ชั้น 8 เซ็นทรัลเวิลด์ มีคราบเขม่าควัน ได้กลิ่นไหม้อยู่

จากกรณีเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้บริเวณใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งหมด 20 ราย เป็นชาย 6 ราย หญิง 14 ราย ผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่มีอาการสำลักควัน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมานั้น

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เจ้าหน้าที่จากกรุงเทพมหานคร สภาวิศวกร วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และทหาร เตรียมเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ ที่อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ สำหรับบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมามีพนักงานมารอเข้าทำงานปกติ ขณะที่ด้านหน้าอาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ (The Offices At Central World) ได้ปิดประกาศแจ้งว่า “อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ คาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 11 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น. โดยจะมีการประเมินสถานการณ์ตลอดเวลา ซึ่งหากมีข้อมูลเพิ่มเติมหรือมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายในวันที่ 11 เมษายน 2562 เวลา 12.00 น.” นอกจากนี้มีสื่อมวลชนจำนวนมากมาติดตามการตรวจสอบหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ โดยบริเวณด้านนอกอาคารชั้น 8 ยังเห็นสภาพความเสียหายมีคราบเขม่าควันและยังคงได้กลิ่นไหม้อยู่

ขณะที่ศูนย์วิทยุพระราม 199 ได้สรุปเหตุเพลิงไหม้ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2562 เวลา 17.41 น. ที่ผ่านมา สถานที่เกิดเหตุ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เลขที่ 999/9 ถนนพระรามที่ 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ประกอบกิจการ ศูนย์การค้า ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 9 ชั้น ต้นเพลิงเกิดขั้นที่ชั้นใต้ดิน บี2 เพลิงลุกไหม้ ชั้น บี2 ภายในห้องระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง และห้องเก็บอุปกรณ์สำนักงาน ลุกลามบริเวณชั้น 9 ผ่านท่อใยแก้วระบายอากาศ ลุกไหม้โต๊ะและฝ้าเพดาน พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 200 ตารางเมตร รถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ประชาชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 20 ราย และเสียชีวิต จำนวน 2 ราย ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ ยังไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากน้ำท่วมขังสูงประมาณ 40 เซนติเมตร และยังมีกลุ่มควันภายในห้อง พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงบรรทัดทอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image