ไขปริศนา ‘ไหม้เซ็นทรัลเวิลด์’ ทำไมต้นเพลิงชั้นใต้ดิน ลามติดลุกถึงชั้น 8 เผยจุดอ่อน ยกย่อง 2 ฮีโร่ ช่วยคนอื่นจนสุดทางหนีตาย

เมื่อเวลา12.00น. วันที่ 11 เมษายน ที่หน้าอาคารห้างสรรพสินค้าเซนทรัลเวิลด์ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้  ศ.ดร.อมร พิมานมาศ เลขาธิการสภาวิศวกร นายธีรยุทธ ภูมิศักดิ์ รองผอ.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพิชญะ จันทรานุวัฒน์ เลขาธิการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และรศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษาวสท.และนายพินิต อารยะศิลปะธร ผอ.เขตปทุมวัน นายนพดล ฉายปัญญา ผอ.สำนักการโยธาธิการ กรุงเทพมหานครพร้อมเจ้าหน้าที่ร่วมกันแถลงข่าว

นายธีรยุทธกล่าวว่า ตามพฤติกรรมของไฟ เมื่อจุดติดไหม้แล้วจะลอยสู่ด้านบน จุดต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี2 เป็นห้องปิดทึบมีอุปกรณ์คือเป็นระบบเครื่องสูบน้ำดับเพลิง มีบ่อบัดน้ำเสียซึ่งอาจเป็นเชื้อเพลิงทำให้ไฟลุกไหม้ในบริเวณดังกล่าวนานและยังมีอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าหลายตัว ต้นเพลิงส่วนหนึ่งมาจากตะกอนที่เกิดจากการบำบัดน้ำเสียซึ่งแห้งตกตะกอนจนกลายเป็นเชื้อเพลิง โดยมีความร้อนสูงถึง 800 องศาเซลเซียส จากนั้นได้มีกลุ่มควันพร้อมแก๊สได้เข้าไปยังท่อระบาย หรือที่เรียกว่า เรเซหลอด ซึ่งท่อดังกล่าวมีขนาดใหญ่มาก

นายธีรยุทธกล่าวต่อว่า เมื่อเกิดเพลิงไหม้ที่ชั้นบี2ความร้อนและควันจึงลอยขึ้นสูงไปตามท่อขนาดใหญ่3ท่อที่ใช้ระบายอากาศมุ่งขึ้นไปชั้น8เพื่อระบายควันออกนอกตัวอาคาร แต่เมื่อควันลอยไปชั้น8 ได้ชนกับฉนวนกันความร้อน ควันและความร้อนที่สะสมได้แผ่ออกด้านข้างทำให้เกิดประกายไฟขึ้นที่ชั้น 8 ซึ่งปกติจะมีท่อเชื่อมเพื่อระบายไปยังนอกตัวอาคาร แต่ด้วยความร้อนที่สะสมทำให้ท่อระบายซึ่งไม่ได้ถูกออกแบบมาให้กันความร้อนเกิดพังแตกหักลงมา ทำให้ควันและไฟกระจายไปชั้น 8 ซึ่งมีวัสดุติดไฟเช่นเก้าอี้ โต๊ะและเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ เมื่อควันอยู่ที่ชั้น 8 ไม่ถูกระบายไปนอกตัวอาคาร ควันจึงกระจายจากชั้น8 กดตัวต่ำ ถ้าดับเพลิงไม่ทันก็จะลงไปตามชั้น7ไล่ลงไป ช่วงเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพบว่าไฟไหม้ชั้น 8 เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบต้นเพลิง แต่ว่าควันเยอะช่วงชั้น7-8 แต่ชั้นอื่นไม่เยอะ จึงตรวจสอบลงไปทีละชั้นโดยใช้กล้องตรวจจับความร้อนหรือกล้องเทอร์มอล จึงพบว่าต้นเพลิงอยู่ที่ชั้นบี 2 โดยเพลิงได้ไหม้ไปแล้วประมาณ70เปอร์เซ็นต์แล้ว จึงทำการฉีดโฟมอัดเข้าไปที่ชั้นบี 2 เพื่อตัดอากาศทำให้เพลิงมอดไปในที่สุด

ด้านศ.ดร.อมรกล่าวว่า เบื้องต้นโครงสร้างอาคารแข็งแรง เจ้าหน้าที่จะต้องตรวจสอบเรื่องระบบของตัวอาคาร ทั้งท่อต่าง ๆ รวมถึงเชื้อเพลิงในอาคารและระบบป้องกันอัคคีภัยของตัวอาคาร ซึ่งอาคารนี้มีความสูงเกิน23เมตร ต้องอยู่วิศวกรรมควบคุม ทางสภาจะเชิญวิศวกร ผู้ออกแบบอาคารมาสอบสวนเพื่อดูว่าการออกแบบถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ขณะที่ในส่วนของสภาวิศวกรจะตรวจสอบท่อปล่องจากชั้นบี2ขึ้นไปชั้น8นั้น เจ้าหน้าที่จะดูว่าสามารถทนความร้อนได้กี่องศา และตรวจสอบจุดแตกหักของท่อปล่องกับท่อระบายควันออกนอกตัวอาคารนั้นว่ามีรอยรั่วอยู่แล้วหรือว่าเป็นการอัดอั้นของกลุ่มควัน เนื่องจากอาจมีคราบน้ำมันจากการทำอาหารทำให้ท่ออุดตันจนทำให้ควันไม่ระบายออกไปข้างนอกตัวอาคาร จากการตรวจสอบในพื้นที่จุดที่คนตกลงมา พบว่าหน้าต่างสูงจากพื้น1.50เมตร มีร่องรอยทุบกระจกเพื่อพยายามหนีออกไปข้างนอก ต้องตรวจสอบว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากการระเบิดของท่อทำให้ไฟขวางประตูหนีไฟทำให้หนีไม่ได้หรือผู้เสียชีวิตมีลักษณะตกใจ ต้องรอผลสรุปลำดับเหตุการณ์จากทางเซ็นทรัลที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

นายพิชญะกล่าวว่าสำหรับระบบป้องกันไฟไหม้นั้น ปกติอาคารทั่วไปจะใช้กัน2ระบบควบคู่กันคือระบบอัตโนมัติและระบบให้คนสั่งการ สำหรับที่ชั้นบี2นั้น ขณะนั้เจ้าหน้าที่ยังหาจุดเกิดเหตุที่ไฟไหม้จริง ๆ ไม่พบทำให้ไม่รู้ว่าสปริงเกอร์ที่จุดดังกล่าวทำงานหรือไม่ เพราะถูกเพลิงไหม้หมดแล้ว แต่จากแบบแปลน เข้าใจว่าอาคารดังกล่าวเป็นอาคารเก่าสมัยเป็นห้างเวิร์ลเทรดเซนเตอร์ ที่ผ่านมาการก่อสร้างอาคารนั้น ก็มีกฎหมายควบคุม แต่ตัวอาคารเก่านั้นอาจไม่ทันกับกฎหมายควบคุมฉบับใหม่ที่ออกมา ซึ่งกฎหมายก็แนะนำเรื่องการป้องกันอาคาร แต่ไม่มีบทลงโทษ ในกรณีนี้ท่อจากชั้นบี2ซึ่งพาควันไฟขึ้นไปชั้น8 ตามปกติจะมีท่อระบายอากาศความยาว60เซนติเมตรระบายควันออกไป แต่เมื่อความร้อนพุ่งไปตามท่อทำให้ท่อระบายอากาศพังจนไม่สามารถระบายควันออกไปได้ จนไฟลุกลามไปชั้น8 ต้องเข้าใจว่าท่อที่เชื่อมมาจากชั้นบี2สู่ชั้น8นั้น เป็นท่อระบายอากาศเสีย และที่วางท่อให้ไปสุดแค่ชั้น8ไม่ใช่ชั้นดาดฟ้า เพราะว่าอาคารเก่าถูกออกแบบมาในลักษณะดังกล่าวจึงมีจุดอ่อนในบางเรื่องบ้าง

Advertisement
นายพิชญะกล่าวต่อว่าปล่องควันที่ทำให้ไฟลุกลามนั้นห่างจากจุดที่ผู้เสียชีวิตโดดออกมาประมาณ10เมตร และปล่องนั้นห่างจากประตูเพียง3-4เมตรเท่านั้น คาดว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามจะดับไฟ ช่วยเหลือให้คนอื่นหนี หรืออาจถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่นี้ จึงหนีออกมาไม่ทัน ทั้งที่สามารถทำได้จึงถือว่าผู้ตายทั้งมองเป็นฮีโร่ เพราะจากโครงสร้างนั้นชั้น8มีความซับซ้อน ค่อนข้างจะดับไฟยาก จึงต้องขอยกย่องผู้เสียชีวิตทั้ง2คนด้วย

ด้านนายพินิตกล่าวว่าตอนนี้ทางเขตได้ปิดกั้นอาคารบริเวณชั้นบี2เนื้อที่80ตารางเมตร และชั้น8ซึ่งมีเนื้อที่400ตารางเมตร โดยห้ามใช้จุดดังกล่าว ขณะที่ส่วนอื่น ๆ ของห้างนั้น สามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่าจุดเกิดเหตุนั้นไม่มีโอกาสเกิดเพลิงไหม้ซ้ำได้อีกแล้ว สำหรับชั้น 8 นั้น เป็นห้องพักผ่อนของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่ห้องเก็บเอกสารตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

นายนพดลกล่าวว่า พื้นที่ซึ่งถูกสั่งห้ามใช้ จะใช้ได้เมื่อไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับทางเจ้าของอาคารส่งแบบแปลนที่แก้ไขเรียบร้อยส่งไปยังสำนักการโยธา โดยแบบแปลนนี้จะต้องได้รับการยอมรับจากสถาบันที่เชื่อถือได้และมีมาตรฐาน ซึ่งทางโยธาฯจะนำแบบแปลนมาวิเคราะห์เพื่อดูว่าจะอนุญาตให้ใช้พื้นที่ดังกล่าวได้หรือไม่ต่อไป
ด้านรศ.สิริวัฒน์กล่าวว่า จากการตรวจสอบโครงสร้างพบว่าอาคารมั่นคงแข็งแรงดี เพลิงไม่ได้กระทบโครงสร้างโดยตรง อีกทั้งเพลิงไหม้กินระยะเวลาสั้น ๆ จึงมีเพียงคราบเขม่าควัน สามารถเปิดใช้งานตัวอาคารที่ไม่ได้รับความเสียหายได้ตามปกติ

สำหรับผู้เสียชีวิตนั้น เบื้องต้นทางเซ็นทรัลจะมีการมอบเงินเยียวยาให้ศพละ 2.3 ล้านบาท ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นทางเซ็นทรัลจะดูแลค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image