ติดกำไลEM คุมประพฤติเมาแล้วขับ 184 ราย เงื่อนไขห้ามออกจากบ้านหลัง 4 ทุ่ม

เมื่อวันที่ 15 เมษายน นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยศาลปิดทำการ ในวันที่ 14 เมษายน 2562 จึงมีสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวนการคุมความประพฤติทั่วประเทศ จำนวนเพียง 11 คดี เป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา สำหรับยอดสะสมสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมประพฤติในช่วง 4 วัน (11-14 เมษายน 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 4,067 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 3,908 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.09
คดีขับเสพ จำนวน 150 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.69 คดีขับรถประมาท จำนวน 9 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.22
จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 337 คดี กรุงเทพมหานคร จำนวน 250 คดี และจังหวัดนครพนม จำนวน 211 คดี

นายประสาร ยังกล่าวอีกว่า สำหรับยอดสะสมที่ศาลสั่งติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว ในช่วงที่มีการควบคุมเข้มงวด (11-14 เมษายน 2562) มีจำนวนทั้งสิ้น 186 ราย แยกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 184 ราย และคดีขับเสพ จำนวน 2 ราย โดยส่วนใหญ่กำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 22.00 – 04.00 นาฬิกา เป็นเวลา 7-15 วัน คุมความประพฤติ 1 ปี รายงานตัวจำนวน 4 ครั้ง พร้อมทั้งทำงานบริการสังคม 24 ชั่วโมง เป็นต้น ซึ่งเป็นไปตามแผนบูรณาการป้องกันและลดอุบัติภัยทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562

อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ศาลมีการสั่งใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (EM) เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดระยอง ศาลมีคำสั่งใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกับกลุ่มผู้ถูกคุมความประพฤติในฐานความผิดขับรถขณะเมาสุรา ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 200 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำนวน 8 ราย เป็นระยะเวลากว่า 30 วัน โดยกำหนดเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัย ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 นาฬิกา เป็นระยะเวลา 15 วัน และดำเนินการควบคุม ติดตาม และเฝ้าระวังต่อเนื่องอีก 15 วัน เพื่อไม่ให้ผู้กระทำผิดหวนกลับไปกระทำผิดซ้ำและเป็นการช่วยลดอุบัติเหตุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image