‘วิระชัย’ยันเข็นข้อหา เจตนาฆ่าเล็งเห็นผล ‘เสี่ยเบนซ์’ เป็นตัวเลือกให้ศาลพิจารณาโทษ

“วิระชัย”ยันเข็นข้อหา เจตนาฆ่าเล็งเห็นผล เสี่ยเบนซ์ เป็นตัวเลือกให้ศาลลงโทษตามพฤติการณ์ เร่งสรุปสำนวนฟ้องภายในกำหนดฝากขัง

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 18 เมษายน ที่วัดตรีทศเทพ ย่านถนนราชดำเนิน ในงานสวดพระอภิธรรมคืนที่ 2 ของ พ.ต.ท.จตุพร หรือรองตี๋ งามสุวิชชากุล รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาฏ งามสุวิชชากุล ภรรยา ที่ถูกรถเบนซ์ อี250 สีบรอนซ์ ทะเบียน ษฮ 789 กรุงเทพมหานคร ของนายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 57 ปี ขับชนรถเก๋งซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กก 3653 กรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ทั้ง 2 เสียชีวิต และ ด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล หรือน้องแพรได้รับบาดเจ็บ มาตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดตรีทศเทพ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า มี พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ผู้บังคับบัญชาและกลุ่มเพื่อนตำรวจกองปราบและเพื่อนที่รู้จักกัน ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการตำรวจอื่นและกลุ่มเพื่อนนักกฎหมายของรองตี๋ รวมถึงเพื่อนผู้ร่วมงานของภรรยาทยอยกันมา ซึ่งนายสมชายผู้ต้องหาในคดีนี้ก็ได้เดินทางมากราบศพเป็นคืนที่ 2 ด้วยสีหน้าเศร้าสลด ซึ่งทนายความของนายสมชายแจ้งกับผู้สื่อข่าวว่านายสมชายจะเดินทางมาเคารพศพทุกวัน

หลังจากนั้น พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.ซึ่งได้เดินทางมาเคารพศพ ได้กล่าวถึงการทำสำนวนแจ้งข้อหาผู้ต้องหาว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหา 6 ข้อหา ซึ่งมีทั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล พยายามฆ่า เมาแล้วขับ และขับรถประมาทเป็นสาเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งการที่เราแจ้งทั้งข้อกล่าวหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผลและเมาแล้วขับไปด้วยกัน เนื่องจากการที่เราแจ้งข้อกล่าวหาทั้งสองเมื่อสำนวนถูกส่งไปให้พนักงานอัยการพิจารณาสั่งคดีหรือถูกส่งไปในชั้นศาล แล้วศาลย่อมสามารถที่จะใช้ดุลพินิจพิจารณาได้ว่าพฤติการณ์ดังกล่าวของผู้ต้องหาศาลสามารถลงโทษในสถานใดได้บ้าง ถ้าศาลพิจารณาแล้วพบว่า พฤติการณ์ของผู้ต้องหาเข้าข่ายที่จะเป็นเจตนาฆ่าเล็งเห็นผลได้ศาลก็จะลงโทษจำคุกในความผิดนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงสุดถึงประหารชีวิต ส่วนถ้าศาลเห็นว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหานั้น เป็นการกระทำโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็สามารถลงโทษจำคุกได้ถึงสิบปี แต่ถ้าเราไม่แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเล็งเห็นผลไป

Advertisement

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวอีกว่า ถ้าศาลเห็นว่าพฤติกรรมเป็นเจตนาฆ่าเล็งเห็นผลก็จะไม่สามารถลงโทษได้ หลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงพยานแวดล้อม เพื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการฟ้องต่อศาล ส่วนพนักงานอัยการหรือศาลจะมีความเห็นอย่างไรเป็นดุลพินิจ ซึ่งระยะเวลาว่าจะสรุปสำนวนเมื่อไหร่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ พนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำพยานซึ่งเป็นผู้บาดเจ็บในที่เกิดเหตุอีก แต่เราจะทำโดยเร็วที่สุดและไม่ให้เกิน 3 เดือนภายในเวลาฝากขัง 84 วันที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาตามกฎหมาย

 

Advertisement


เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ศาลเคยไม่รับฝากขังในข้อหาเจตนาฆ่าฯและเคยมีนักกฎหมายรวมถึงอัยการเคยให้ความเห็นว่าเป็นการยากที่จะเอาผิดในข้อหาเจตนาฆ่า การแจ้งข้อหาจะหนักเกินควรและเคยมีฎีกาเทียบเคียงการแจ้งข้อหาดังกล่าวหรือไม่

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหาดื่มสุรามีปริมาณแอลกฮอล์สูงถึง 260 มิลลิกรัม ซึ่งขับรถออกจากจุดที่ดื่มเพียง 400 เมตรก็เกิดอุบัติเหตุ จากพฤติการณ์ของผู้ต้องหาก็จะต้องทราบอยู่แล้วว่าจะต้องเมา และเมื่อเมาก็จะไม่สามารถควบคุมร่างกายตนเองได้และไม่ได้อยู่ในสภาวะที่พร้อมขับรถ และจากที่เห็นได้มีการขับรถขณะเมาสุราโดยไม่มีสติไปตามถนน ที่แคบย่อมเล็งเห็นผลอยู่แล้วว่าจะต้องเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงแจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล ซึ่งเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนได้มีการปรึกษากับพนักงานอัยการที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะมีการสรุปสำนวนเพื่อส่งอัยการพิจารณาฟ้องต่อศาลอยู่ตลอด

พล.ต.อ.วิระชัยยังกล่าวอีกว่า หลังจากนี้เราก็ยังมีแนวทางที่จะปรึกษากับทางสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อจะเสนอแก้ไขอัตราโทษเมาแล้วขับแล้วทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บแและถึงแก่ความตายต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image