ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องไม่ให้ประกันตัว อดีตพระครูกิตติ นอนคุกต่อ เกรงหลบหนี

ภาพจากแฟ้มข่าว

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 เม.ย. ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี ศาลได้อ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์เรื่องการประกันตัวอดีตพระครูกิตติ พัชรคุณ หรือ นายสมเกียรติ ขันทอง อายุ 55 ปี อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์ และอดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค จำเลยคดีฟอกเงินทอนวัดกว่า 24 ล้านบาท ของวัด 12 แห่ง ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีคำพิพากษาจำคุกเป็นเวลา 26 ปี เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยมีทนายความของอดีตพระครูกิตติ มาฟังคำสั่ง ส่วนตัวพระครูกิตติ ถูกคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่เมื่อวานนี้

โดยนายสุริยัณต์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอปล่อยชั่วคราวของจำเลย โดยศาลอุทธรณ์ให้เหตุผลพิเคราะห์ความหนักเบาของข้อหา และพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว เห็นว่าศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยเป็นเวลา 26 ปี มีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยในระหว่างอุทธรณ์

อย่างไรก็ดีในการปล่อยชั่วคราวนั้นตามสิทธิและขั้นตอนตามกฎหมายนั้น จำเลยยังสามารถยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวใหม่ได้ หรือจะอุทธรณ์คำสั่งการปล่อยชั่วคราวใหม่ต่อศาลฎีกาก็ได้ แต่การอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกาจะต้องทำภายในระยะเวลา 1 เดือน

สำหรับ “พระครูกิตติ” นั้นยังถูกอัยการฟ้องคดีอนาจารเด็กหญิง 3 คน อายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งถูกล่อลวงไปยังกุฏิที่พักของ “อดีตพระครูกิตติ” เมื่อช่วงปี 2548-2549 ไว้ต่อศาลอาญาด้วย โดย “พระครูกิตติ” ได้ประกันตัวไปวงเงิน 200,000 บาท ขณะที่ศาลสั่งห้ามออกนอกประเทศเช่นกัน ส่วนคดี ศาลอาญาสืบพยานเสร็จสิ้นแล้วกำหนดนัดฟังคำพิพากษาคดีอนาจารเด็กหญิง ในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้เป็นการตัดสินคดีเงินทอนวัดสำนวนแรก โดยอดีตพระครูกิตติ ได้ร่วมกับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อายุ 60 ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ. ทุจริตเงินทอนวัดกว่า 24 ล้านบาท โดยการยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นอุทธรณ์ ทนายความของอดีตพระครูกิตติ ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นโฉนดที่ดินพร้อมแสดงความประสงค์ขอติดกำไล EM

สำหรับการร่วมฟอกเงิน การทุจริตงบประมาณของ พ.ศ.ราว 150 ล้านบาทที่เป็นเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ตั้งแต่ปี 2557 และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่พระพุทธศาสนา และโครงการของสำนักงานส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม และความมั่นคงฯ ของวัดสระเกศฯ จำนวน 63,700,000 บาท

มีคดีที่อัยการสำนักงานคดีปราบปราบการทุจริต ได้ยื่นฟ้องอดีตพระเถระชั้นผู้ใหญ่ในวัดเขต กทม. อย่างวัดสามพระยาและวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กับกลุ่มฆราวาสชาย-หญิง รวม 10 ราย ที่ร่วมรับเงิน ฐานฟอกเงินและปฏิบัติหน้าที่่มิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ไว้แล้วต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯกลาง รวม 3 สำนวน คดีหมายเลขดำ อท.196/2561 , อท.197/2561 , อท.205/2561 โดยทั้งหมดถูกขังในเรือนจำไม่ได้รับการประกันตัวชั้นพิจารณา ซึ่งคดีอยู่ระหว่างรอไต่สวนพยาน

Advertisement

ส่วนกลุ่มอดีตข้าราชการ พศ.ระดับริหารนั้น ได้แก่ นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. กับพวกรวม 4 คน อัยการก็ได้ยื่นฟ้องคดีไว้แล้วต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 7 เป็นคดีหมายเลขดำ อท.3/2562 ซึ่งคดีอยู่ระหว่างรอไต่สวนพยานเช่นกัน

โดยมหากาพย์คดีเงินทอนวัดเป็นคดีที่มีพนักงานสอบสวนหลายหน่วยงานทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ป.เเละ ปปง.เนื่องจากการพฤติการณ์กระทำผิดมีหลายข้อหา ซึ่งบางข้อหาเป็นอำนาจของหน่วยงานเฉพาะอย่างในเช่นเรื่องการยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของเเผ่นดิน โดยยังมีทั้งสำนวนที่อยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่เเละสำนวนที่ส่งพนักงานอัยการฟ้องต่อศาลไปเเล้วมีผู้เกี่ยวข้องที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งหมดจำนวนมาก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image