ศาลสั่งรวม”สุริยะใส-สุริยันต์”เข้าสำนวนหลักคดีกบฏ

ศาลสั่งรวม”สุริยะใส-สุริยันต์”เข้าสำนวนหลักคดีกบฏ กปปส. “2 อดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย” ขอเป็นโจทก์ร่วม รอศาลพิจารณาสั่งนัดหน้า 14 พ.ค.

วันที่ 26 เม.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดพร้อมคดีหมายเลขดำ อ.247/2561, และตรวจหลักฐานคดีหมายเลขดำ อ.491/2562, อ.719/2562 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กับพวกจำเลยรวม 31 คน ในความผิดฐานร่วมกันกบฏ, สนับสนุนกบฏ, ร่วมกันก่อการร้าย (ฟ้องเฉพาะนายสุเทพ กับ นายชุมพล จุลใส อายุ 48 ปี แกนนำ กปปส.เวทีแยกราชประสงค์), ขัดขวางการเลือกตั้งฯ เมื่อปี 2557 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113, 116, 117, 135/1, 209, 210, 215, 216, 362, 364, 365 พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2550 มาตรา 76, 152 ประกอบมาตรา 83, 91 กรณีกลุ่ม กปปส. ชุมนุมขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ และได้รับการประกันตัว

วันนี้ศาลเบิกตัวนายสุริยะใส กตะศิลา จำเลยซึ่งเป็นอดีตผู้ประสานงานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย จากเรือนจำมาศาล เนื่องจากถูกศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 8 เดือน ในคดีร่วมกันบุกรุกทำเนียบรัฐบาล เป็นจำเลยในสำนวน อ.491/2562 และมีนายสุริยันต์ ทองหนูเอียด จำเลยในสำนวน อ.719/2562 ซึ่งได้ประกันตัวสู้คดีเดินทางมาศาล ขณะที่จำเลยอื่นไม่ต้องเดินทางมาร่วมกระบวนพิจารณา เนื่องจากนัดนี้พร้อมตรวจหลักฐานเฉพาะทนายความจำเลยและอัยการโจทก์เท่านั้น

เมื่อถึงเวลานัด ปรากฏว่านายชุมสาย ศรียาภัย และนายมานพ เกตมณี อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อปี 2557 ได้ยื่นคำร้องต่อศาล ขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการ อ้างว่าเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย โดยอัยการโจทก์ได้แถลงว่า ขอเวลาไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายก่อนว่าผู้ร้องทั้งสองเป็นผู้เสียหายตามกฎหมายหรือไม่ ส่วนทนายความฝ่ายจำเลยแถลงว่า ผู้ร้องทั้งสองไม่ใช่ผู้เสียหายโดยตรงที่จะยื่นคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์กับพนักงานอัยการในคดีนี้

Advertisement

นอกจากนี้ อัยการโจทก์ได้ยื่นคำร้องขอนำคดี อ.494/2562 และ อ.719/2562 ทั้งสองสำนวนรวมพิจารณาเข้ากับคดี อ.247/2561 นี้ เนื่องจากจำเลยร่วมกัน กระทำความผิดคราวเดียวกัน ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่จะนำสืบชุดเดียวกัน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ใช้สืบชุดเดียวกัน คู่ความกระทำความผิดคราวเดียวกัน หากรวมพิจารณาเข้าด้วยกันแล้วจะเป็นการสะดวกรวดเร็วแก่คู่ความทุกฝ่าย จึงอนุญาตให้นำคดีทั้งสองสำนวนมารวมพิจารณาเข้ากับคดีนี้ เพื่อความสะดวกในการพิจารณาพิพากษา ให้เรียกนายสุริยะใส จำเลยคดี อ.491/2562 และ นายสุริยันต์ จำเลยคดี อ.719/2562 ว่า จำเลยที่ 30 และ 31 ทั้งนี้ ศาลจะพิจารณาสั่งเรื่องโจทก์ร่วมในนัดหน้า ให้นัดสืบพยานโจทก์-จำเลยตามที่กำหนดไว้แล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดี อ.247/2561 นี้ ที่นายสุเทพกับพวกเป็นจำเลยนั้น ศาลอนุญาตให้สืบพยานโจทก์รวม 80 ปาก ใช้เวลา 30 นัด สืบพยานจำเลย 100 ปาก ใช้เวลา 30 นัด โดยนัดสืบพยานโจทก์ครั้งแรกวันที่ 14 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image