ผบ.ตร. ชี้ทำคดีตร.เรียกค่าไถ่กันเอง ตรงไปตรงมา ย้ำรับไม่ได้ หากทำผิดจริงโดนวินัย-อาญา

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. เปิดเผย ถึงความคืบหน้ากรณีส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ ภ.จว.ปัตตานี ได้มีหนังสือร้องเรียน ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ กับพวก ซึ่งได้จับกุมตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์  พร้อมด้วยอาวุธปืนซึ่งเป็นของทางราชการ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยแจ้งว่ามีการข่มขู่ว่าจะดำเนินคดีในข้อหาขัดขืนการจับกุม พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน และอ้างว่าได้มีการเรียกรับเงิน จำนวน 200,000 บาท เพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีดังกล่าว ว่า

ได้รับรายงานจาก กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค9 (บก.สส.ภ.9)  ว่า มี ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่ (ป) สภ.กะพ้อ ภ.จว.ปัตตานี ได้มีหนังสือร้องเรียน ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ กับพวก การกรณีเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 62 เวลาประมาณ 19.00 น. ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯ กับพวก จับกลุ่มกันอยู่บริเวณภายในซอย 18 รัตนอุทิศ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา ขณะนั้นได้มี ด.ต.ธีระยุทธฯ กับพวก มุ่งเข้ามายังกลุ่มของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯ ได้อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและได้เข้าตรวจยึดอาวุธปืน และควบคุมตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯ กับพวก ขึ้นรถยนต์ไปควบคุมไว้ที่เซฟเฮาส์ ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา เป็นเวลา 1 คืน พอรุ่งเช้าวันที่ 27 มี.ค. 2562 ได้มี น.ส.น็อต ติดต่อกับญาติๆของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯกับพวก ซึ่งได้ต่อรองโดยการจำนำรถยนต์เก๋ง ของ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯ เป็นเงิน 80,000 บาท และเงินสด จำนวน 120,000 บาท ให้กับ น.ส.น็อต จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ปล่อยตัว ส.ต.ท.สัญลักษณ์  กับพวกไป หลังจากนั้น ส.ต.ท.สัญลักษณ์ฯ จึงได้มีหนังสือร้องเรียนเรื่องดังกล่าว

ในเบื้องต้นทราบว่า บก.สส.ภ.9 มีคำสั่งให้ ด.ต.ธีระยุทธ สุวรรณรัตน์ ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.สส.3 บก.สส.ภ.9 , ด.ต.สิรภพ หมื่นหนู ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.9 และ ด.ต.พิรชัช หวั้นเส้ง ตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ปฏิบัติการพิเศษ บก.สส.ภ.9 มาปฏิบัติราชการที่ ศปก.บก.สส.ภ.9 พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว

รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตอบคำถามสังคมได้นั้น บก.สส.ภ.9 ก็มีการตั้งคณะกรรมตรวจสอบข้อเท็จจริง รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำความจริงให้ปรากฏ หากผลการสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริง ก็จะดำเนินการทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาดอยู่แล้ว ไม่มีการให้ความช่วยเหลือหรือปกป้องผู้ที่กระความผิดอยู่แล้ว

Advertisement

อีกทั้ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ได้กำชับให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ทำการสืบสวน ขยายผล และจับกุมผู้ที่สนับสนุนหรือที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด ซึ่งที่ผ่านมา ผบ.ตร. ได้กำชับและสั่งการมาโดยตลอดห้ามเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ ประพฤติผิดในทางมิชอบ แสวงหา หรือ ปฏิบัติหน้าที่อันเป็นการเหลื่อมล้ำกับกฎหมาย สร้างความเดือนร้อนแก่สังคม โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติงานด้วยความสุจริต ยุติธรรม ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ตามกรอบของกฎหมาย และยังมีข้อสั่งการไปยังกองบัญชาการทุกภาคส่วนให้ผู้บังคับบัญชาควบคุม เสริมสร้างความประพฤติและวินัยข้าราชการตำรวจ ทั้งเวลาราชการและนอกเวลาราชการ ตามคำสั่งที่ 1212/2537 ในการ กวดขัน กำกับ ดูแล สอดส่องความประพฤติและพฤติกรรมของข้าราชการตำรวจภายใต้การปกครองบังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด

โดยหากพบว่าตำรวจเป็นผู้กระทำความผิดเสียเอง ท่าน ผบ.ตร. ยอมรับไม่ได้ ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุดทั้งทางวินัยและทางอาญา อย่างเด็ดขาด รวมทั้งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ใส่ใจ ไม่กำกับดูแลความประพฤติ การปฎับัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา ก็จะถูกพิจารณาโทษด้วยเช่นกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสังคมในการอำนวยความยุติธรรม

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image