ศาลอุทธรณ์เเก้ยกฟ้อง ‘วันกษัตริย์’ หมิ่นเบื้องสูง ผิดฉ้อโกงประชาชนคุก 2 ปี 9 เดือน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม ที่ห้องพิจารณาคดี 807 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำ อ.588/2559 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้องนายวันกษัตริย์ พรหมทอง หรืออดีตพระวันกษัตริย์ วชิรญาโณ อายุ 31 ปี เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

โดยโจทก์ฟ้องว่าเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2553-ถึง 15 กรกฎาคม 2555 จำเลยกระทำการอันเป็นการดูหมิ่นเบื้องสูงโดยจำเลยได้กล่าวแอบอ้างกับพระวิเชียรกิตติสาโร ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานตั้งชื่อให้จำเลยว่า “วันกษัตริย์” โดยจำเลยเติบโตอยู่ในรั้วในวังได้รับพระราชทานสิ่งของ 5 อย่างคือ 1.ตราครุฑ 2.ตราพระเกี้ยว 3.คฑาครุฑ 4.ตราพระราชทานอภัยโทษและตราสิงห์ของกระทรวงมหาดไทย และยังได้รับพระบรมราชานุญาตให้สร้างครุฑแจกและจำหน่ายแก่ประชาชนทั่วไป อันเป็นความเท็จทำให้พระวิเชียร และบุคคลที่ได้รับฟังหลงเชื่อว่าข้อความที่จำเลยกล่าวอ้างเป็นความจริง

เหตุเกิดที่ตำบล หินดาด อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา และที่ตำบลท่าพญา อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เกี่ยวพันกันขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ พ.ศ.2534 มาตรา 4,13 พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 มาตรา 3,6

จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี

Advertisement

โดยศาลอาญามีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 30 พ.ย.60 ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 พระราชบัญญัติเครื่องหมายครุฑพ่าห์ พ.ศ.2534 มาตรา 4,13 การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาทดูหมิ่นหรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาทหรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ลงโทษจำคุก 5 ปี ส่วนที่ใส่เครื่องหมายครุฑพ่าห์โดยไม่มีสิทธิจำคุกกระทงละ 3 เดือนรวม 3 กระทงเป็นจำคุก 9 เดือน รวมทั้งสิ้นจำคุก 5 ปี 9 เดือนและให้ริบของกลาง

จำเลยยื่นอุทธรณ์

วันนี้เบิกตัวจำเลยจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อมาฟังคำพิพากษา ซึ่งจำเลยถูกคุมขังในคดีมีซากสัตว์ป่าสงวนคุ้มครองจำนวนมากไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ป. จับกุมได้เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา และศาลอาญาไม่อนุญาตให้ประกันตัวระหว่างการฝากขัง

Advertisement

ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้นแค่บางส่วน การที่จำเลยอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์ฟังไม่ขึ้น เนื่องจากการจัดสร้างเครื่องหมายครุฑพ่าห์ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าอาวาสก่อน จะทำโดยพลการไม่ได้ จึงฟังไม่ขึ้น ส่วนความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง จำเลยไม่ได้มีเจตนาชัดแจ้งในการดูหมิ่นเบื้องสูง เป็นเพียงการไม่สมควร แอบอ้างหลอกลวงให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน หรือปกปิดความจริง เพื่อแสวงประโยชน์หรือเพื่อให้ได้ซึ่งผลประโยชน์อันมิควรได้ เป็นลักษณะความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน แม้โจทก์จะฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่การกระทำความผิดของจำเลยตามที่โจทก์ฟ้องนั้น รวมการกระทำหลายอย่าง แต่ละอย่างอาจเป็นความผิดอยู่ในตัวแล้ว ศาลอุทธรณ์ย่อมมีอำนาจจะลงโทษจำเลยในความผิดนั้นได้ พิพากษาแก้ให้ลงโทษจำเลยฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 วรรคแรก และฐานทำหรือใช้เครื่องหมายครุฑพ่าห์โดยไม่มีสิทธิรวมจำคุกจำเลย 2 ปี 9 เดือน และยกฟ้องความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image