ป.ป.ส. ฮึ่ม เจอครอบครองกัญชา ไม่ใช่ผู้ป่วย ไม่มีใบอนุญาตพกกัญชา จับแน่ เฝ้าระวังเพจขายน้ำมันเถื่อน เชื่อปนเปื้อน 80 % พบพวกหัวใสเอาน้ำมันมาขาย บอกมีใบครอบครองเป็นผู้ป่วย เจอใช้เพื่อความบันเทิงเพิ่มขึ้น
นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงมาตรการตรวจจับกุมการครอบครองกัญชา ผู้ทีไม่ได้รับอนุญาตจากองค์การอาหารและยา (อย.) ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ว่า จากจับกุมชาวบ้าน 2 ราย ที่ลักลอบปลูกกัญชาของกลางจำนวน 2 ต้น พบว่า เป็นการลับลอบปลูกเพื่อจำหน่าย ไม่ใช่ผู้ป่วย และไม่มีใบครอบครองจากอย. ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายชัดเจนจะมาอ้างว่าไม่รู้คงไม่ได้ เจตนาของการครอบครองเอาไว้จำหน่าย เพราาะกัญชายังเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด ยังไม่สามารถปลูกได้จะต้องได้รับการอนุญาต จากหน่วยงานเกี่ยวข้อง หากมีการปลูกในครัวเรือน หรือลักลอบปลูกถือว่า ผิดกฎหมาย มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ป.ป.ส.กำลังประสานกับทางอย.เพื่อขอข้อมูลผู้ครอบครอง ที่มาลงกับอย.ตามกฎหมายระบุไว้ ว่ามีจำนวนเท่าไหร่ เพื่อการป้องกัน ไม่ให้มีการแอบอ้างหรือ ถือสิทธิ์ครอบครองไม่ตรงตามที่ยื่นเรื่องไว้
นายนิยม กล่าวถึง การจำหน่ายสารสกัดจากกัญชาตามเว็บไซต์ สังคมออนไลน์ ว่า ป.ป.ส.กำลังเก็บข้อมูลเพจดังกล่าว แต่เพจประเภทเหล่านี้จะปิดตัวเอง และเปิดใหม่ ไปเรื่อยๆ แต่ฝากเตือนไปยังไปยังพี่น้องประชาชน ที่จะซื้อสินค้าจากกลุ่มพวกนี้ให้ระมัดระวังอันตราย เพราะไม่มีการรับรองว่า สารสกัด หรือน้ำมันกัญชาเหล่านี้ เป็นของจริง หรือไม่ หรือมีสารปนเปื้อนมากน้อยแค่ ไหน ที่ผ่านมาป.ป.ส. พยายามอธิบายข้อควรระมัดระวังการใช้ สารสกัด หรือน้ำมันกัญชา ว่าต้องอยู่ในความควบคุมของเแพทย์ หากมีผลกระทบข้างเคียงเกิดขึ้น เพจที่ขายหรือคนที่แนะให้ซื้อจะมีใครรับผิดชอบ การน้ำสารสกัดมาใช้ผิดประเภท ก็เริ่มเพิ่มขึ้น เอามาทาบุหรี่เพื่อสูบ หรืออีกสารพัดวิธีเพื่อความบันเทิงไม่อยากล่าวถึง แต่บอกว่าตนเองมีใบอนุญาต แบบนี้ก็เริ่มมากขึ้น ซึ่งป.ป.ส.กำลังเฝ้าระวังติดตามกลุ่มเหล่านี้
“ตอนนี้น้ำมันกัญชาในตลาดมืดกำลังแพร่ระบาดมาก และจากการสุ่มตรวจ 80% มีสารปนเปื้อนเพราะน้ำมันกัญชากลุ่มนี้สกัดมาจากกัญชาอัดแท่งด้วยตัวของกัญชา แห้งอัดแท่งจะมีสารปนเปื้อนอยู่แล้ว ยังไม่นับรวมกับการปนเปื้อนยาฆ่าแมลง ที่ป.ป.ส.ได้ตรวจพบจากของกลางที่ตรวจยึดได้ ซึ่งป.ป.ส. ก็ถูกวิพากษ์ วิจารณ์พอสมควรว่าไปเอื้อนายทุนหรือไม่ การรออกมาให้ข่าวในลักษณะนี้ แต่ป.ป.ส.ต้องแถลงตามข้อเท็จจริงที่ตรวจสอบพบ ซึ่งป.ป.ส.ไม่ได้ตรวจหรือทำงานเพียงหน่วยเดียวมีกรรมการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมทำงาน แต่ก็แปลกใจว่าทำไม ทำเป็นไม่เข้าใจ ผมขอยืนยันว่ากัญชาที่จำนำมาใช้ทางการแพทย์นั้น ต้องมีพื้นที่ควบคุมตั้งการปลูก การสกัด ไม่ใช่ใครก็ปลูกและใช้ได้ตามใจชอบ เพราะตอนนี้ประเทศไทย กฎหมายยังไม่ได้ให้ใช้กัญชาเพื่อความบันเทิง ใครมีไว้ครอบครองต้องมีใบอนุญาตเท่านั้น ถ้าเป็นผู้ป่วยจริง หากป.ป.ส.จะส่งให้ไปพบแพทย์ เพื่อปฎิบัติตามขั้นตอน ถ้าไม่ใช่ก็ต้องจับกุมตามกฎหมาย “นายนิยมกล่าว
