เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน นายนรเศรษฐ์ ทรงกลด หรือ จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม พร้อมทนาย ได้เดินทางเข้าพบเพื่อขอขมากับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. กรณี พล.ต.อ.ศรีวราห์ ถอนฟ้องหมิ่นประมาทกับนายนรเศรษฐ์ ที่อัดคลิปเรื่องใบอนุญาตบินโดรนในการช่วยเหลือเด็กติดถ้ำทั้ง 13 คน ที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย
นายนรเศรษฐ์เปิดเผยว่า ในกรณีที่ได้ไลฟ์สดผ่านทางเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเด็กติดถ้ำ 13 หมูป่าอะคาเดมี่ ซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์ของตนในตอนนั้นมีการใช้ถอยคำที่หยาบคาย และการใช้กิริยามารยาทที่ไม่เหมาะสม อีกทั้งยังมีการพาดพิงถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ด้วยถอยคำหยาบคายถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ในฐานะที่ตนเป็นคนในที่สาธารณะทำให้ผู้ที่ติดตามหรือผู้ที่ได้ชมการไลฟ์สดของตนเกิดการเข้าใจผิดในการทำงานของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกๆ ฝ่าย ซึ่งตนได้ทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างแล้วว่าพล.ต.อ.ศรีวราห์ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ให้เข้าไปเพื่อดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายให้เป็นไปตามความเรียบร้อย
“ผมเสพข้อมูลทางโซเชียลในด้านเดียวแล้วก็ตัดสินแล้วนำมาวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งๆ ที่ลืมไปว่าผมเป็นบุคคลสาธารณะ วันนี้ก็สำนึกในสิ่งที่ผมทำ ยอมรับว่าผมทำผิดจริง ขาดความยั้งคิด ทำไปด้วยความโง่เขลา ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจท่านศรีวราห์ผิด และทำให้ภาพลักษณ์สำนักงานตำรวจเสียหาย ” จั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม กล่าว
พล.ต.อ.ศรีวราห์เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบ พบว่ากรณีดังกล่าวไม่ได้เป็นกระบวนการล้มอำนาจรัฐ ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ไม่ได้มีการจัดตั้งเป็นกระบวนการ แต่ถ้าหากผู้รักษากฎหมายไม่สามารถดูแลได้ก็คงจะเป็นไปไม่ได้ ทุกคนสามารถวิพากษ์วิจารณ์การทำงานได้ แต่ให้อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย ตนไม่ใช่บุคคลสาธารณะ เป็นข้าราชการที่ยังคงกินเงินเดือนของประชาชนอยู่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ก็จะทำการตรวจสอบว่าให้เป็นคนลงคลิป แต่เป็นคนตัดต่อคลิปเพราะคลิกดังกล่าวมีการตัดต่อ จึงเร่งหาต้นตอคลิปดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังการแถลงข่าว นายนรเศรษฐ์ ได้นำพานพร้อมดอกไม้มาขอขมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ในการกระทำดังกล่าว
