จากกรณีเหตุเมื่อช่วงสายของวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา กลุ่มวินรถจยย.รับจ้าง 2 กลุ่ม ยกพวกตีกัน เนื่องจากไม่พอใจ วินอีกกลุ่มที่มาตั้งแย่งลูกค้า ภายในซอยอุดมสุข (สุขุมวิท 103) โดยขณะเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ตำรวจ บก.สปพ. (191) เข้าระงับเหตุ แต่กลุ่มวินยังคงไล่ตีกันไม่ยั้ง ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านและผู้สัญจรผ่านไปมา จนมีคนโดนกระสุนปืนลูกหลงเสียชีวิต 2 ราย โดยรายแรกเป็นหนุ่มเคอรี่ที่ถูกลูกหลง อีกรายอยู่ในกลุ่มที่ทะเลาะวิวาทกันแต่ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นฝ่ายใด
เมื่อเวลา 05.00 น.วันที่ 16 มิถุนายน ที่สน.บางนา พ.ต.อ.พรชัย ชลอเดช รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.นคร ทองพานิช ผกก.สน.บางนา และพ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.สายตรวจ (191) บก.สปพ. ร่วมกันปล่อยแถวระดมกำลังตำรวจ สน.บางนา ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 ตำรวจ สายตรวจ 191 บก.สปพ. และเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำรายวัตถุระเบิด(EOD) ตามเป้าหมาย 5 จุด เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมกรณีเหตุวินจักรยานยนต์ยกพวกทำร้ายร่างกายกัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต
โดยจุดแรกทางตำรวจพร้อมอาวุธครบมือ ได้นำหมายค้น ศาลจังหวัดพระโขนง เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 257 ซอยอุดมสุข 26 ถนนสุขุมวิท 103 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กทม.ซึ่งเป็นบ้านต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวเมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านเดี่ยวปลูกสร้างด้วยปูน สูง 3 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด ทางเจ้าหน้าที่จึงทำการกดกริ่ง ตลอดจนตระโกนเรียกให้เจ้าของบ้านมาเปิดประตู แต่ไม่มีเสียงตอบขานรับแต่อย่างใด จึงทำการเข้าไปตรวจค้นภายในบ้าน พบว่ามีผู้อาศัยอยู่ 5 คน จึงแสดงหมายค้น และทำการตรวจค้น ผลปรากฎว่าไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
จุดที่ 2 ทางตำรวจนำหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนง เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่433 ซึ่งอยู่ภายในซอยเดียวกัน จุดที่ 3 ทางตำรวจนำหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนงเข้าตรวจค้นห้องพักในคอนโดมิเนียม ภายในซอยสุขุมวิท 66/1 และจุดที่ 4 ทางตำรวจนำหมายค้นศาลจังหวัดพระโขนง เข้าตรวจค้นบ้านพักภายในย่านเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ผลการตรวจค้นทั้ง 3 จุดนี้ ปรากฎว่าไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ต่อมาทางตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเจริญ หรือต่อ เจริญผล อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาฝ่ายคู่กรณี พร้อมของกลาง อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ ขนาด .45 มม. ยี่ห้อโคลท์ จำนวน 1 กระบอก ซึ่งทางตำรวจสงสัยว่า เป็นบุคคลที่ร่วมก่อเหตุคือกลุ่มวัยรุ่นที่ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้างปากซอยอุดมสุข แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สืบทราบว่า 1 ในกลุ่มผู้ร่วมก่อเหตุ คือ นายเจริญ หรือต่อ จึงได้เชิญตัวมาที่ห้องสืบสวน สน.บางนา โดยนายเจริญ รับว่าตนเป็นกลุ่มบุคคลที่อยู่ในชุมชนไปดีมาดี ซ.สุขุมวิท 103/1 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ และได้ใช้อาวุธปืน ( ของกลาง ) ยิงขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่คู่กรณีเพื่อไม่ให้เข้ามาในซอย ทำร้ายฝ่ายตน และจากนั้นตนได้นำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ บริเวณบ้านร้างหลังบ้านเลขที่ 317 ชุมชนไปดีมาดี ซ.สุขุมวิท 103/1 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ
จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปตรวจยึด จุดบริเวณที่ตนได้นำอาวุธปืนไปซุกซ่อนไว้ บริเวณบ้านร้างหลังบ้านเลขที่ 317 ชุมชนไปดีมาดี ซอยสุขุมวิท 103/1 แขวงบางนาเหนือ เขตบางนา กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นจุดที่ 5 เมื่อไปตรวจสอบพบว่า อาวุธปืนถูกซุกซ่อนใว้ที่บริเวณดังกล่าวจริง จึงทำการชี้จุดพร้อมตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเวลา 07.00 น.วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม ศปก.สน.บางนา ทางพ.ต.อ.พรชัย พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ พ.ต.อ.นคร และพ.ต.อ.ปิยรัช และตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการครั้งนี้ โดยพ.ต.อ.พรชัย กล่าวว่าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้บูรณาการกำลังตำรวจ บก.น.5 และตำรวจ บก.สปพ. เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 5 จุดที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว เข้าไปตรวจค้น จับกุมผู้ต้องหา ตลอดจนการตรวจยึดหลักฐาน
ด้านพ.ต.อ.นคร กล่าวว่า การปฏิบัติการครั้งนี้ ทางตำรวจได้ขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ไว้แล้ว 3 ราย ตลอดจนขออมัติหมายค้น 5 เป้าหมาย ผลการปฏิบัติสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือนายปิยะ หรือหมู พวงเกษร อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่266/2562 ส่วนอีกราย นายรังสรรค์ หรือเอ็ก ศรไชยากร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง เลขที่267/2562 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2562 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ ,ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว ,ร่วมกันพกพาอาวุธปืน เข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มี้หตุอันสมควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน”
นอกจากนี้ยังได้ประสานเจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในชุมชนซอยรุ่งเรือง1 ผลการตรวจค้นอย่างละเอียดพบหัวกระสุนปืน 2 หัว จึงให้พนักงานสอบสวนรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน และนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานอีกครั้ง สำหรับการสอบปากคำผู้ต้องหานายรังสรรค์ให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตามทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อต้องทำการสอบสวนอีกครั้ง ตลอดจนเร่งชุดสืบสวนติดตามตัวผู้ต้องหาที่เหลือ คือนายวันชัย หรืออ่ำ มงคลเข็ม ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่268/2562 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2562 ในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาติ ,ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว ,ร่วมกันพกพาอาวุธปืน เข้าไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มี้หตุอันสมควร และร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน” มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ต่อไป
