“ประมุข”หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ ย่านอุดมสุข เข้ามอบตัวแล้ว จ่อตั้งข้อหาหนัก

จากกรณีกลุ่มจักรยานยนต์รับจ้างวินอุดมสุข 1-2 กับวินอุดมสุขรุ่งเรืองที่อยู่ใกล้เคียงกันภายในซอยสุขุมวิท 103 แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ ขัดแย้งกันเรื่องขยายพื้นที่วิ่งวินจยย.และแย่งผู้โดยสารกันเรื่อยมา จนเมื่อช่วงสายวันที่ 15 มิถุนายนทั้งสองฝ่ายต่างตะลุมบอนปะทะกันจนนายวีรวัฒน์ พึ่งครุฑ อายุ 20 ปี อาชีพส่งสินค้าเคอรี่และเป็นวินอยู่วินอุดมสุขฯ เสียชีวิต พร้อมยังมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย ทาง ตร.ทำการจับกุมขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มอีกหลายราย ในท้องที่ สน.บางนา

เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน ที่ สน.บางนา ล่าสุดนายประมุข วิเชียรดิลกกุล อายุ 44 ปี หัวหน้าวินจยย.อุดมสุข 1-2 ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป สำหรับนายประมุขนั้น ถือเป็นหัวโจกของวินจยย.ที่ก่อเหตุและถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงเลขที่ 270/2562 ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2562 ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต ,ร่วมกันพกพาอาวุธเข้าไปในเมืองโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันยิงปืนโดยใช่เหตุ และข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนคุมตัวนายประมุขออกจากห้องสืบสวนพาตัวเข้าห้องขัง นายประมุขสวมแว่นกันแดดสีดำ ใส่หมวก และคาดผ้าปิดปาก ทั้งนี้นายประมุขยังมีอาการบาดเจ็บจากเหตุวิวาทดังกล่าวให้เห็น คือมีลักษณะเดินกะเผลกที่ขาขวา โดยระหว่างที่ตำรวจพาตัวมานั้น ทางผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการยิงถล่มวิน แต่นายประมุขไม่ได้พูดอะไร ได้แต่เดินนิ่ง ๆ ขึ้นห้องขังของชั้น2สน.ไป โดยมีทนายความคอยเดินตามและดูแลอยู่ไม่ห่าง

ข่าวแจ้งว่าจนถึงตอนนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไป 7 หมายได้เรียบร้อยแล้ว หลังนายวันชัยมือยิงถูกจับกุมไปช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทาง สน.บางนาอยู่ระหว่างดำเนินการสอบปากคำละรายงานผู้บังคับบัญชาและจะมีการจัดแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบต่อไป

พล.ต.ต.ธีรศักดิ์ สุริวงศ์ รองผบช.น.กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สอบปากคำนายประมุข แต่ไม่ว่าผู้ต้องหาจะให้การอย่างไร ตำรวจไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ เพราะมีหลักฐานชัดเจนพร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายได้ หลังจากนี้จะเดินหน้าขยายผลผู้ต้องหาเพิ่มเติม ขณะนี้จะนำผู้ต้องหาส่งรพ.ศิขรินทร์เพื่อไปตรวจร่างกายว่ามีอาการบาดเจ็บส่วนไหนบ้างตามขั้นตอนกฎหมาย ในส่วนของการออกหมายจับเพิ่มนั้น จากวงจรปิดคลิปช่วงเกิดเหตุมีผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้จำนวน80-100คน เจ้าหน้าที่สามารถพิสูจน์ทราบชื่อนามสกุลจริงแล้ว50คน หลังจากนี้ทางตำรวจก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป

Advertisement

รายงานข่าวแจ้งว่าทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะใช้เวลา1-2วัน ก็จะสามารถออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาชุดที่3ได้อย่างแน่นอน ส่วนการพานายประมุขไปตรวจร่างกายนั้น เนื่องจากต้องการตรวจสอบให้แน่ใจว่า นายประมุขได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายร่างกายในวันเกิดเหตุ ไม่ใช่บาดแผลจากการถูกคุมตัว และผลตรวจนั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานและสามารถดำเนินคดีกับผู้ที่ทำร้ายร่างกายนายประมุขได้อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image