คุก 15 ปี ปรับ 500 บาท หลานชายแสบกับพวกอุ้มป้าเรียกค่าไถ่ 3 ล้าน

เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ห้องพิจารณา 711 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีอุ้มป้าเรียกค่าไถ่ หมายเลขดำ อ.961/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายวรพงษ์ หรือโอ๋ ปิ่นสุวรรณ อายุ 50 ปี และนายธงชัย หรือกล้วย คำพันธ์ อายุ 31 ปี เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันเอาตัวบุคคลอายุกว่าสิบห้าปีไปโดยใช้อุบายหลอกลวง, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการ, หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น และร่วมกันชิงทรัพย์ฯ
กรณีเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2562 จำเลยร่วมกันใช้อุบายหลอกลวงนางนฤมล หริรักษฐากูร อายุ 79 ปี ผู้เสียหายซึ่งเป็นป้าของนายวรพงษ์ ว่าจะพาไปทำธุรกรรมการเงิน จนผู้เสียหายหลงเชื่อยอมขึ้นรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน วภ4381 กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จำเลยจะหน่วงเหนี่ยวกักขัง ใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหายด้วยการสวมกุญแจมือ จากนั้นโทรศัพท์เรียกเอาเงินค่าไถ่ 3 ล้านบาท จากบุตรชายและบุตรสาวผู้เสียหาย เพื่อแลกเปลี่ยนกับเสรีภาพของผู้เสียหาย โดยระหว่างนั้นจำเลยใช้อาวุธมีดข่มขู่ผู้เสียหายให้มอบเงินจำนวน 32,000 บาทด้วย เหตุเกิดที่แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.สามเสน ติดตามจับกุมตัวจำเลยทั้งสองได้ พร้อมให้การรับสารภาพ
วันนี้ศาลเบิกตัวจำเลยทั้งสองซึ่งถูกคุมขังจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาฟังคำพิพากษา ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานประกอบคำให้การรับสารภาพของจำเลยทั้งสองแล้ว โจทก์มีผู้เสียหายเป็นพยานเบิกความว่าถูกจำเลยหลอกไปทำธุระที่ศูนย์ราชการ จากนั้นพวกจำเลยได้โทรหาบุตรของพยานเพื่อเรียกเอาเงินค่าไถ่ 3 ล้านบาท แลกตัวพยาน หากไม่ให้จะฆ่าพยานทิ้ง และใช้มีดจี้เอาเงินพยานไป 32,000 บาท ก่อนปล่อยทิ้งลงข้างทางภายหลัง ศาลเห็นว่าผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยาน เบิกความสอดคล้อง ไม่มีเหตุโกรธเคืองกับจำเลยมาก่อน มีเวลาเพียงพอที่จะจดจำใบหน้าของจำเลยทั้งสองได้ เชื่อว่าเบิกความไปตามจริง จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ จึงเป็นการใช้อุบายนำตัวไปหน่วงเหนี่ยวกักขัง แสดงเจตนาเอาตัวไปเพื่อค่าไถ่ และการเอาเงิน 32,000 บาท เป็นการร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้รถพาทรัพย์หลบหนี
พิพากษาว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป โดยให้จำคุกในความผิดฐานร่วมกันเรียกค่าไถ่ คนละ 15 ปี ฐานร่วมกันชิงทรัพย์โดยมีอาวุธและใช้รถพาทรัพย์หลบหนี คนละ 15 ปี ฐานพาอาวุธไปในเมืองให้ปรับคนละ 1,000 บาท รวมจำคุกคนละ 30 ปี ปรับ 1,000 บาท จำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ให้ลดโทษกึ่งหนึ่ง รวมจำคุกคนละ 15 ปี ปรับ 500 บาท พร้อมริบของกลาง ทั้งนี้ ในส่วนค่าเสียหาย 32,000 บาท ทนายความจำเลยได้แจ้งต่อศาลว่าจำเลยได้ชดใช้คืนแล้ว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image