รอง ผบ.ตร.แฉขบวนการยาลดอ้วนกาฬสินธุ์ โยงเครือข่ายผลิต ‘ลีน’ เครือเมจิกสกิน แนะเหยื่อแจ้งความ

กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.มรกต เจริญกิจ อายุ 30 ปี สาวแม่ลูกอ่อนชาว อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังกินยาลดความอ้วนที่สั่งซื้อจากคลินิกออนไลน์ กระทั่งเกิดอาการผิดปกตินำส่ง รพ.อ่างทอง และเสียชีวิต โดยหมอระบุสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะจากการกินยาดังกล่าว กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จ.กาฬสินธุ์ นำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เลขที่ 131/2562 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 65 หมู่ที่ 7 ต.สงเปลือย อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ เป็นบ้านหลังใหญ่สุดหรูและมีโรงงาน ซึ่งหน้าบ้านติดป้าย “บริษัท ดี.ดี.คอสเมด จำกัด” มีนางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของ หลังสืบทราบเป็นแหล่งผลิตและโกดังขนาดใหญ่เก็บยาลดความอ้วน ตรวจค้นพบยาหลากชนิดหลายยี่ห้อ ทั้งแบบเม็ด ผง และแคปซูลกว่า 10 ล้านเม็ด และอุปกรณ์การผลิตจำนวนมาก พร้อมพบร่องรอยการเผาทำลายหลักฐานทิ้งไปจำนวนมาก โดยมีความผิด พ.ร.บ.โรงงาน ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาทประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตยาปลอม ผลิตอาหารปลอม ทำลายพยานหลักฐาน

 

 

Advertisement

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 7 กรกฎาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. แถลงผลการทลายโรงงานผลิตยาลดความอ้วนและเครือข่ายผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า สำหรับขบวนการนี้สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ครบถ้วนตั้งแต่ผู้ผลิต และผู้จำหน่ายยาลดความอ้วน รวมจำนวน 7 คน ประกอบด้วย น.ส.อัญมณี หีบแก้ว ซึ่งเปิดบัญชีรับโอนเงิน มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 34 ล้านบาทในรอบปี, นางต้อย เจ้าของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน (บริษัท ดีดีคอสเมด จำกัด), หมอเดียร์ เจ้าของคลินิก ซึ่งเป็นลูกสาวของโรงงานผลิตยาลดความอ้วน, ผู้ร่วมกิจการ 2 คนคือ น.ส.ปลา และนายต่อ หุ้นส่วน โอบีแคร์ รวมถึงผู้ส่งยาลดความอ้วนอีก 2 คน ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านายจิรายุส พลศิริ เป็นคนไปส่งยาลดความอ้วนที่ไปรษณีย์เภตรา จ.ปทุมธานี ให้กับผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ น.ส.ปลา นายต่อ และผู้ส่งยาจะได้รับค่าจ้างจากหมอเดียร์เดือนละ 300,000 บาท

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้งหมด 7 คน ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาใครในกระบวนการนี้ เนื่องจากต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิตจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์หาสาเหตุของการเสียชีวิตว่าเกิดจากสาเหตุใด ทั้งนี้ หากผลออกมาว่าเกิดจากการรับประทานยาลดความอ้วน ก็จะเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนโรงงานผลิตยาลดความอ้วนใน จ.กาฬสินธุ์ที่มีการเข้าตรวจค้นพบการผลิตยาผิดกฎหมายเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ได้แจ้งข้อหากับโรงงานไปแล้ว 8 ข้อหา อาทิ ตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตและจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาทในประเภท 2 โดยไม่ได้รับอนุญาต ผลิตยาปลอม ผลิตอาหารปลอม ทำลายพยานหลักฐาน ฯลฯ

Advertisement

พล.ต.อ.วิระชัยยังกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบโรงงานผลิตยาที่ จ.กาฬสินธุ์ พบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาลดความอ้วนผิดกฎหมาย รายใหญ่ที่สุดของประเทศ นอกจากนี้ ยังพบความเชื่อมโยงว่าเดิมทีเจ้าของโรงงานเป็นขบวนการที่เคยตั้งโรงงานผลิตยาลดความอ้วน “ลีน” ในเครือเมจิกสกินที่ จ.สมุทรสาคร แต่ถูกตำรวจบุกเข้าทลายโรงงาน จึงมาสร้างโรงงานใหม่ที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยในวันที่บุกค้น พบลูกจ้างกำลังเผาทำลายยาไซบูทรามีนอยู่ 5 จุด โดยสูตรยาทุกตัวที่ผลิตจากโรงงานมีส่วนผสมของไซบูทรามีนทั้งสิ้น และจะใช้วิธีจ่ายยาเป็นชุด เพื่อกดอาการข้างเคียงของไซบูทรามีนจำนวน 7 ชนิด ให้รับประทานไปควบคู่กัน หากบริโภคเข้าไปปริมาณมาก อาจจะส่งผลให้ระบบไตและตับทำงานหนักและวายเฉียบพลันจนเสียชีวิตในที่สุด

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ส่วนหมอเดียร์นั้น เป็นอดีตเภสัชกรที่ถูกเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ และเคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว รวมทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างรอลงอาญา 2 ปี และเคยเปลี่ยนชื่อมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็กลับมาก่อเหตุในลักษณะนี้อีก โดยมีลูกจ้างคือ น.ส.ปลาและนายต่อ 2 สามีภรรยาที่ติดหนี้กว่า 5 ล้านบาท เนื่องจากเคยเป็นลูกค้าที่สั่งซื้อยาจากโรงงาน แต่ถูกจับทำให้ไม่มีเงินมาจ่ายค่ายา จึงมาขอทำงานใช้หนี้

จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายที่สั่งซื้อยาลดความอ้วนจากเพจเฟซบุ๊กโอบีแคร์ จำนวน 5,619 ราย สามารถไปแจ้งความในท้องที่เกิดเหตุได้ เพื่อดำเนินกับบุคคลเหล่านี้ในความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนกว่า 30 ล้านบาท

กรณีเจ้าของโรงงานกล่าวอ้างว่า มีข้าราชการระดับสูงเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยการเรียกรับผลประโยชน์ พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวยืนยันว่า ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน จ.กาฬสินธุ์ ทำการสอบสวนแบบตรงไปตรงมา ไม่ต้องปกปิด ช่วยเหลือ หรือซ่อนเร้นผู้กระทำผิด ซึ่งได้สั่งการให้ทาง พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพชรพันธ์ ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ตรีวิทย์ ศรีประภา รอง ผบก. และพนักงานสอบสวนให้ทำการสอบสวนเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมา หากมีการพาดพิงถึงข้าราชการคนไหนให้ปรากฎไว้ในสำนวน หลังจากผู้ต้องหาได้ให้การทั้งหมดเรียบร้อยได้ให้ผู้ต้องหา รวมถึงพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีมาพบในวันพุธที่ 10 ก.ค. เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยจะเรียก เจ้าของโรงงาน หมอเดียร์ เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่า ขอเรียนว่าที่มีข่าวว่าเป็น สคบ. นั้นเป็นข่าวมาจากไหนไม่ทราบ ผมยังไม่เคยให้สัมภาษณ์หรือให้ข่าวว่าผู้ที่เกี่ยวข้องนั้นเป็นผู้ใหญ่ใน สคบ.หรือเป็นใคร แต่เมื่อสื่อมวลชนถามว่าหากมีข้าราชการเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวต่อว่า ถ้ามีข้าราชการเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเฉียบขาด ตรงไปตรงมา ไม่ว่าข้าราชการคนนั้นจะเป็นข้าราชการหน่วยใด หรือส่วนใดก็ตาม และถ้าข้าราชการคนนั้นเป็นตำรวจก็จะยิ่งดำเนินการได้อย่างเต็มที่

ส่วนที่มีรายงานว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด ปคบ.นั้นทาง พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวอีกว่า ในส่วนนี้ยังไม่ได้มีการตรวจสอบ ขอเวลาให้ผมได้ดำเนินการตรวจสอบก่อน ซึ่งทางผู้ต้องหาที่กล่าวอ้างจะมาในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ ในฐานะผู้เสียหายคดีถูกเจ้าพนักงานเรียกรับสินบน โดยขอยืนยันหากพบข้าราชการเรียกรับสินบนจริงจะต้องถูกดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image