เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง(สตม.)
พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง รรท.ผบช.สตม. พร้อม พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง ผบก.ตม 3 และพ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผกก.ตม.ชลบุรี
ร่วมแถลงผลจับกุมของ ตม.จว.ชลบุรี 2 คดี คดีแรกจับกุมนายมานิช(MANEESH) ชาวอินเดีย อายุ 30 ปี ที่เคยถูกขึ้นบัญชีแบล็กลิสต์ห้ามเข้าประเทศเป็นเวลา 10 ปี ได้แอบเข้ามายื่นเอกสารขออยู่ต่อเพื่อประกอบธุรกิจในประเทศไทย
พ.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 1,549 วัน) และถูกผลักดันออกนอกราชอาณาจักรแล้วแต่วันที่ 8 กันยายน ปี2561 โดยมีคำสั่งห้ามเข้าประเทศเป็นเวลา 10 ปี ล่าสุดนายมานิช ได้เข้ามายื่นขออยู่ต่อและเปลี่ยนประเภทวีซ่าที่ ตม.จว.ชลบุรี เพื่อเปิดบริษัทประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยได้รับการตรวจคนเข้าเมืองด้วยระบบไบโอเมตริกซ์ แต่มีผลแสดงคดีเก่า เจ้าหน้าที่ ตม.จึงจับกุมตัวพร้อมแจ้งข้อหา “เป็นบุคคลต่างด้าวหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตาม ขัดขืน หรือไม่ยอมรับทราบคำสั่งรัฐมนตรีฯ ” ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 มาตรา 82 จึงปรับเงินพร้อมผลักดันออกนนอกราชอาณาจักรต่อไป
พ.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวอีกคดีจับกุมเอเย่นต์ทำดวงตราประทับและใบรับรองที่อยู่ปลอมให้ชาวต่างชาตินำไปใช้ประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการ โดยมี น.ส.วิกานดา มุ่งหาเงิน อายุ 44 ปี เป็นผู้ต้องคดี“ทำปลอมขึ้นซึ่งดวงตราหรือรอยตราของเจ้าพนักงาน”และ “ปลอมเอกสารราชการ”
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่า มีหญิงชื่อวิคกี้ เป็นผู้รับทำเอกสารปลอมสำหรับคนต่างด้าวเพื่อใช้ในการประกอบธุรกรรมกับหน่วยงานราชการเช่นใบขับขี่และเปลี่ยนแปลงข้อมูลเกี่ยวกับรายการทะเบียนเกี่ยวกับรถ ปลอมดวงตราประทับของบริษัทต่างๆ
พ.ต.อ.สัมพันธ์ กล่าวว่า ชุดสืบสวนจึงวางแผนจับกุมโดยได้ติดต่อนัดหมายผู้ต้องหา เพื่อขอทำเอกสารรับรอง โดยผู้ต้องหาได้นัดหมายที่ลานจอดรถหน้าสำนักงานชั่วคราวไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่หน้าที่ทำการขนส่งจังหวัดชลบุรี สาขาบางละมุง ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อไปถึงชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและเข้าตรวจสอบ พบ น.ส.วิกานดา หรือวิคกี้ พร้อมตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองปลอม จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางในคดี
สอบถาม น.ส.วิกานดา รับว่าได้รับจ้างปลอมเอกสารให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ โดยใช้คอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ รวมถึงดวงตราประทับของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่จัดทำปลอมขึ้นมาประทับลงในเอกสารดังกล่าว อีกทั้งยังได้ปลอมลายมือชื่อของเจ้าหน้าที่ผู้อนุญาต โดยคิดค่าบริการรายละ 1,000 – 3,000 บาท
เบื้องต้นนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางละมุง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
