โฆษกสภาทนาย เผยญาติเเพรวาโชว์ที่ดินปราณบุรี เกรงขายชดใช้หนี้ไม่พอ ชี้ ดอกเบี้ยอ่วม 9ปี ชี้เงินกองทุน ก.ยุติธรรมเอามาสำรองจ่ายไม่ได้
เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ว่าที่พ.ต.สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความกล่าวเพิ่มเติมในคดีแพรวา เป็นบทเรียนแก่สังคมไทย ว่าเมื่อใครไปก่อคดีทำละเมิด และศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดทางแพ่ง หรือคดีเสร็จเด็ดขาดทางอาญา เขามีหน้าที่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ด้วยการใช้หนี้โดยเร็ว เพราะขอให้ระลึกว่าแม้ ศาลจะพิพากษา ให้ใช้เงินต่อราย รายละ1ล้านบาท แต่อย่าลืมว่า คดีละเมิดกฎหมายแพ่งเขาให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ7.5 นับแต่วันทำละเมิดคือวันที่27ธ.ค.2553 สิ่งที่น่ากลัวคือมีดอกเบี้ยเดินทุกวัน และทบต้นทุกคืน ผ่านไป9ปีป่านนี้เงินรายละ1ล้านบาทก็คงไม่ใช่เสียแล้ว ไม่อยากนึกถึงตัวเลข แต่มันจะเกินเลยไปมาก
โดยฝ่ายโจทก์ผู้ชนะคดีมีหน้าที่ต้องตั้งเรื่องบังคับคดีต่อกรมบังคับคดี เจ้าพนักงานบังคับคดีจะคำนวนตัวเลขออกมา ดังนั้นตนเห็นว่าลำพังโฉนดที่ดินที่อ.ปรานบุรี ที่ญาติน.ส.แพรวานำมาแสดงในรายการทีวี คงจะไม่พอ เมื่อไม่พอ ก็ต้องสืบทรัพย์เพิ่ม ถ้าไม่มี แนะนำทางออกว่า ฝ่ายจำเลยควรไปหามาให้ครบตามคำพิพากษา เพราะไม่เช่นนั้นฝ่ายผู้เสียหายสามารถใช้ช่องทางตามพ.ร.บ.ล้มละลายพ.ศ.2483 ฟ้องให้ฝ่ายจำเลย ตกเป็นบุคคลล้มละลายได้ เพราะมีหนี้สินมากกว่าทรัพย์สิน มีหนี้สินล้นพ้นตัว เป็นหนี้จำนวนแน่นอนและหนี้เกิน1ล้านบาท เมื่อถูกฟ้องล้มละลายแล้ว และถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด จำเลยก็จะประกอบกิจการงานอะไรไม่ได้รับราชการไม่ได้ทรัพย์สินจะถูกควบคุมอายัดจำกัดการเคลื่อนไหว และเสียเครดิต
ผู้สื่อข่าวถามว่า คุณแม่น้องแพรวาบอกในรายการทีวีว่าไม่คิดหนี แต่เงินสดไม่พอมีแต่โฉนด อยากรีบขายเอาเงินมาใช้หนี้ตามคำพิพากษา แต่ในชั้นนี้ขอให้กระทรวงยุติธรรมโดยกองทุนยุติธรรมสำรองเงินค่าสินไหมทั้งหมดไปก่อนแล้วจะเอาโฉนดไปตราไว้หรือค้ำประกันอะไรก็ได้ทั้งสิ้น
ว่าที่พ.ต.สมบัติกล่าวว่าเงินกองทุนยุติธรรมมีไว้เยียวยาความเสียหาย น่าจะเป็นคนละส่วนกับเงินตามคำพิพากษา ไม่อาจเอามาสำรองจ่ายหรือจะเอาอสังหาริมทรัพย์มาผูกพันตราไว้ คงเป็นเรื่องเข้าใจคลาดเคลื่อน
ต่อข้อถามว่า มีข่าวตามโซเชี่ยลว่า มีทนายความฝ่ายแพรวา ไปพูดจาไม่ดีกับฝ่ายผู้เสียหาย ว่า ถ้าอยากได้เงินเร็วขอจ่ายแค่ครึ่งเดียวจะเอาหรือไม่ถ้าไม่เอาก็ไปฟ้องเอา เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าที่พ.ต.สมบัติกล่าวว่า ถ้าเป็นเรื่องจริงก็น่าจะเข้าข่ายผิดมรรยาททนาย ก็ลองให้ฝ่ายที่คิดว่าได้ถูกกระทบสิทธิ์ไปร้องต่อคณะกรรมการมรรยาททนายความ สภาทนาย บางเขน เพื่อตรวจสอบและพิจารณา ซึ่งมีโทษหลายระดับถึงถอนใบอนุญาต