สืบเนื่อง พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อิษฏ์ บุญญะฤทธิ์ รอง ผกก.สส.สภ.ด่านขุนทด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านขุนทด เดินทางไปร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม จับกุม นายเพชร หูกขุนทด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสีคิ้ว จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ด่านขุนทด ทราบว่า นายเพชรได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับ น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ ภรรยา ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในซอยสะแกงาม 30 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านขุนทด จึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ร่วมกันวางแผนเข้าจับกุม นายเพชร พร้อม น.ส.ลลิตา ได้ที่ซอยสะแกงาม 30 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน เมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ในฐานความผิด “ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าหน้าพนักงานหรือผู้ซึ่งต้องช่วยเหลือเจ้าพนักงานตามกฎหมายในการปฏิบัติการตามหน้าที่และหลบหนีไประหว่างที่ถูกคุมขังของเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาและมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมายและเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์โดยผิดกฎหมาย” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ด่านขุนทด จึงได้ทำการควบคุมและนำตัวนายเพชร พร้อม น.ส.ลลิตา ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 02.50 น. วันที่ 1 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.ด่านขุนทด ได้ออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบบนถนนสายด่านขุนทด-พระทองคำ บ้านโค้งตะคร้อ ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เจ้าหน้าที่พบรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มีลักษณะพิรุธต้องสงสัย มีนายเพชร หูกขุนทด อายุ 25 ปี ชาว ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา เป็นผู้ขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตนและแจ้งให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจค้น ปรากฎว่า พบยาบ้าบรรจุถุงพลาสติกใสสีน้ำเงินแบบปิดเปิด พันด้วยเทปกาวสีดำอีกชั้นหนึ่ง จำนวน 120 เม็ด และบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใสแบบกดปิด-เปิด จำนวน 5 เม็ด รวมทั้งสิ้นจำนวน 125 เม็ด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบ ในระหว่างเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมกำลังทำบันทึกจับกุมอยู่นั้น น.ส.ลลิตา คงสวัสดิ์ ภรรยา อายุ 19 ปี ชาว ต.หนองบัวละคร อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ได้ขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาและได้แอบเตรียมการวางแผนเพื่อที่จะให้สามีหลบหนี ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน ในขณะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนนั้น นายเพชร ผู้ต้องหาได้ส่งสัญญาณให้กับ น.ส.ลลิตา โดยการขอเจ้าหน้าที่พักดื่มน้ำและนมก่อน จากนั้นอาศัยจังหวะวิ่งหลบหนีไปซ้อนท้ายรถ จยย.ที่ น.ส.ลลิตาได้เตรียมจอดรออยู่บริเวณด้านนอก สภ.ด่านขุนทด เพื่อให้ตนเองหลุดพ้นจากการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ โดย น.ส.ลลิตามีฐานความผิด ช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดอันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องรับโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใดเพื่อไม่ให้ถูกจับกุม
จากนั้น พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ จันทรกานตานนท์ ผกก.สภ.ด่านขุนทด ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.อิษฏ์ บุญญะฤทธิ์ รอง ผกก.สส. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน โดยเน้นย้ำต้องจับตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงได้สืบสวนหาข่าว จนกระทั่งทราบที่อยู่ของผู้ต้องหาที่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไป จากนั้นได้ทำการประสานไปยังกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เข้าร่วมจับกุมได้ในที่สุด ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ด่านขุนทด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
