น.1 ระบุดูจากคดีเก่าคนร้ายอายุไม่มากก่อเหตุ ทางข่าวเผยลงมือไม่ต่ำกว่า 10 ตร.มีแอ๊กชั่นแน่ หลังประชุม รมต.อาเซียน

จากเหตุระเบิดป่วนรอบกรุง ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา ไล่ตั้งแต่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ, กองบัญชาการกองทัพไทย และสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี โดยยังพบวัตถุต้องสงสัยตลอดทั้งวัน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ รพ.วิภาราม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) เดินทางเข้าเยี่ยมเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดเขตสวนหลวงที่ประสบเหตุถูกระเบิดปิงปองได้รับบาดเจ็บในซอยพระรามเก้า 57/1 พร้อมกล่าวถึงแนวทางการเฝ้าระวังเหตุก่อความวุ่นวายว่า วานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้สั่งการให้หน่วยงานความมั่นคงและตำรวจทุก สน. คอยเฝ้าระวังสังเกตการณ์สิ่งผิดปกติตามจุดสุ่มเสี่ยงต่างๆ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนหากมีเบาะแสผู้ก่อเหตุหรือพบวัตถุต้องสงสัยให้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวนายลูไซ แซแง อายุ 23 ปี และนายวิลดัน มาหะ อายุ 29 ปี ชาวนราธิวาส ผู้ต้องสงสัยที่นำระเบิดมาวางหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ยังอยู่ในแนวทางการสืบสวน ไม่สามารถเผยรายละเอียดได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า จากหลักฐานภาพวงจรปิดที่มีคนร้ายนำวัตถุคล้ายระเบิดไปวางในร้านค้าของห้างดังย่านปทุมวัน แต่งกายในชุดคล้ายนักศึกษาจะเป็นการเชื่อมโยงให้เข้าใจว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุมีแนวโน้มที่จะอายุน้อยลง เป็นการปลูกฝังหรือสร้างแนวร่วมทางการเมืองในหมู่คนรุ่นใหม่หรือไม่นั้น พล.ต.ท.สุทธิพงษ์กล่าวว่า ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น อีกทั้งคดีเก่าๆ ที่เคยเกิดขึ้น เช่นเหตุระเบิดที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อปี 2558 ก็มีคนร้ายอายุไม่มากร่วมอยู่ด้วย ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดถึงข้อสังเกตดังกล่าว

รายงานข่าวแจ้งว่า ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีระเบิดว่า ภายหลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตั้งชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ทั้ง 4 จุดคือ สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะอาคาร B และกองบัญชาการกองทัพไทย รวมถึงที่หน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เพื่อนำมาไล่เรียงลำดับเหตุการณ์ก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ เพื่อติดตามจับกุมคนร้าย โดยพบผู้ก่อเหตุแล้วมีไม่ต่ำกว่า 10 คน เชื่อมโยงกลุ่มก่อความไม่สงบพื้นที่ภาคใต้ โดย 2 ผู้ต้องหาที่วางระเบิดหน้าป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่จับตัวได้จาก จ.ชุมพร นั้นเป็นผู้ร่วมขบวนการเดียวกัน และยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่าเป็นการกระทำหวังผลสร้างสถานการณ์ ซึ่งแผนประทุษกรรมเป็นลักษณะเดียวกับที่เคยเกิดเหตุระเบิดมาแล้วใน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่ไม่ใช่ผู้ต้องหาในกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถูกจับกุมไปแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นคนกลุ่มใหม่ทั้งหมด

Advertisement

ทั้งนี้ พบข้อมูลว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น คนร้ายเตรียมระเบิด 9 ลูกมาใช้ก่อเหตุ โดยเขียนตัวเลขกำกับแต่ละลูกไว้ ซึ่งชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดสามารถกู้ระเบิดได้ 3 ลูก คือที่หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 2 ลูก และที่หน้ากองบัญชาการกองทัพไทย 1 ลูก และช่วงเวลาที่คนร้ายก่อเหตุตั้งแต่ 06.00-09.00 น. หลังจากนั้นก็ไม่พบเหตุระเบิดจุดใดเพิ่มเติมอีก จากนั้นยังไม่พบว่ามีจุดใดเชื่อมโยงกับเหตุการณ์สร้างสถานการณ์ในกรุงเทพฯ

สำหรับความคืบหน้าอย่างเป็นทางการ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จะแถลงความคืบหน้าด้วยตนเองอีกครั้ง หลังการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนเสร็จสิ้น

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image