พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีในห้วง 2-3 วันที่ผ่านมาเกี่ยวกับเหตุเกิดวัตถุเสียงดังคล้ายวัตถุระเบิดในพื้นที่ กทม. และใกล้เคียง ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มีความห่วงใย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ พร้อมกำชับสั่งให้การให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เร่งรัดเจ้าหน้าที่ให้ทำการสืบสวน พิสูจน์ทราบถึงกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว ผบ.ตร. จึงได้มีคำสั่งตั้งทีมงานสืบสวนสอบสวนขึ้นมาโดยมี พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็น คณะทำงาน ในการสืบสวนสอบสวนและสืบสวนติดตามและจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขอให้ประชาชนอย่าได้ตื่นตระหนกและโปรดให้มีความเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังอยู่ระหว่างทำการสืบสวนสอบสวนและเร่งรัดในการทำงาน
โดยจากการสืบสวนขยายผลเกี่ยวกับเหตการณ์บริเวณถนนพระราม9 ซอย57/1 เขตสวนหลวง จนทำให้พนักงานทำความสะอาดของ กทม. ได้รับบาดเจ็บนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวเยาวชนชาย 4 ราย ซึ่งเป็นนักเรียนช่างอุตสาหกรรมสภาบันแห่งหนึ่ง จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า กลุ่มเยาวชนดังกล่าวได้นำระเบิดปิงปองไปซุกไว้บริเวณถนนพระราม 9 ซอย 57/1 เขตสวนหลวงจริง จนต่อมา ได้เกิดเหตุระเบิดเมื่อพนักงานทำความสะอาดฯ ได้เข้าไปเก็บกวาดขยะ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวไปส่ง พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
จากกรณีดังกล่าวข้างต้นนั้นเบื้องต้นพบว่ามิใช่ระเบิดแสวงเครื่อง ที่มีแรงดันสูงแต่อย่างใด อีกทั้ง ยังไม่พบถึงการเชื่อมโยงกับเหตุการณ์อื่นในหลายเหตุการณ์ที่ผ่านมา แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมต่อไป
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า โดยในส่วนของเหตุการณ์อื่นขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเร่งรัดสืบสวนสอบสวนและออกติดตามเพื่อจับกุมตัวผู้ก่อเหตุต่อไปพร้อมกันนี้ ผบ.ตร. ได้กำชับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล , ตำรวจภูธร ภาร 1 -9 และ โดยอย่างยิ่ง กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ให้วางแนวทางเพิ่มความเข้มในการออกตรวจตราป้องกันเหตุ ตามสถานที่สำคัญ แหล่งชุมชน การคมนาคม ศูนย์การค้า สถานที่ท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนในทุกพื้นที่ รวมทั้งบูรณาการด้านการข่าว กับหน่วยงานความมั่นคง อาทิ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล , สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และ ตำรวจตระเวนชายแดน ให้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลตลอด เพื่อรายงานเหตุและเข้าแก้ไขให้ทันต่อสถานการณ์ อีกทั้ง ผบ.ตร. ขอขอบคุณภาคส่วนประชาชนและที่เกี่ยวข้องในการช่วยกันแจ้งข้อมูลเบาะแส และเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่เหน็ดเหนื่อยระดมกำลังออกทำงานเพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยให้กับประชาชนและสังคมในห้วงนี้
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า หากประชาชนพบเบาะแสหรือมีข้อมูลผู้ต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขสายด่วน 191 , 1599 ได้ตลอด 24 ชม.
