เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 11 ส.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ควบคุมตัว นางกาญจนา ศรีสังข์ อายุ 25 ปี ชาว กทม. นายประเชิญ กระบินโรท อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดปราจีนบุรี นายดาว แจ้งประดิษฐ์ อายุ 35 ปี ชาวกรุงเทพฯ 3 ผู้ต้องหาจ้างวานฆ่า มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11-22 ส.ค.
โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่าเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ไม่มีทะเบียน หัวกระสุนปืนขนาด .38 จำนวน 2 อัน จึงแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 1 ว่าได้ร่วมกันกับนายกิตติพงษ์ หรือใหม่ พลับพลา (ยังไม่ได้ตัว) ก่อให้ผู้อื่นกระทำความผิดด้วยการใช้จ้างวานฆ่าบุพการีโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 และที่ 3 ว่าร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและไม่มีเหตุอันควร จากเหตุเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.62 เวลาประมาณ 20.15 น. นายประเชิญผู้ต้องหาที่ 2 และนายดาวผู้ต้องหาที่ 3 ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงพยายามฆ่านางเอื้อมเดือน ศรีสังข์ ผู้กล่าวหาได้รับบาดเจ็บบริเวณซอย 10 หมู่บ้านสวนทิพย์ ถนนคลองลำเจียก เขตบึงกุ่ม ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุ
โดยมีนางสาวกาญจนา หรือต่าย ผู้ต้องหาที่ 1 และนายกิตติพงษ์ (ที่ยังไม่ได้ตัวมาดำเนินคดี) ร่วมกันใช้จ้างวานผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ด้วยเงินจำนวน 200,000 บาท โดยแบ่งหน้าที่กันทำคือนายกิตติพงษ์เป็นคนจัดหาอาวุธปืนของกลาง นายประเชิญผู้ต้องหาที่ 2 เป็นคนใช้อาวุธปืนยิง นายดาวผู้ต้องหาที่ 3 ทำหน้าที่ขับรถไปก่อเหตุและหลบหนีโดยเจตนาประสงค์ต่อความตาย โดยผู้ต้องหาที่ 2 และ 3 ได้ลงมือกระทำความผิดไปโดยตลอดแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลเนื่องจากผู้กล่าวหาไม่ตายสมเจตนาของผู้ใช้จ้างวาน
จนกระทั่งวันที่ 9 ส.ค. เวลาประมาณ 14.35 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.โคกครามได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาที่ 1, 2 เเละ 3 ตามหมายจับของศาลอาญาพร้อมนำอาวุธปืนของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2, 3 เพิ่มเติมว่าร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนโดยผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา การกระทำของผู้ต้องหาที่หนึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (1) 84 การกระทำของผู้ต้องหาที่ 2, 3 เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 (4) 80, 83 และ พ.ร.บ.อาวุธปืนเครื่องกระสุนฯมาตรา 7, 8 ทวิ วรรคเเรก 72 วรรคเเรก 72 ทวิ วรรคสอง
โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาทั้งหมด เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกรงว่าจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้
ต่อมาเมื่อครบเวลาราชการไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดมายื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหา จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ไปควบคุมอย่างเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทันฑสถานหญิงกลางระหว่างฝากขังต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดช่วงระยะเวลา ฝากขังที่ศาลอาญาในวันนี้ไม่ปรากฏว่ามีญาติของผู้ต้องหามาเยี่ยมซื้อของฝากหรือยื่นประกันตัวแต่อย่างใด