คุก’ป้าติ้น’คดีแจ้งความเท็จหวย 30 ล้าน 12 เดือนไม่รอลงอาญา ญาติยื่นขอประกันแสนบาทปล่อยตัว

นางจรูญ หรือ ป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2 (ซ้าย)นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ (ขวา)

ศาลสั่งจำคุกป้าติ้น คดีแจ้งความเท็จหวย 30 ล้าน เป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน แต่คำให้การมีประโยชน์อยู่บ้างลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ต่อมาศาลให้ประกัน 1 แสนบาท

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่14 สิงหาคม ที่ศาลอาญา ถ.ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1802/2561 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 9 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น อายุ 54 ปี เป็นจำเลยฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิดอันเป็นการแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษฯ กรณีความเท็จกล่าวหานางจรูญ เฮก หรือป้าติ๋ว ยักยอกหวยรางวัลที่ 1 งวดเดือน เม.ย. 2560 มูลค่า 30 ล้านบาทไป

โจทก์ฟ้องว่าเมื่อระหว่างวันที่ 12 เม.ย. 2560 ถึงวันที่ 8 พ.ค. 2560 จำเลยได้บังอาจแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญแก่ ร.ต.อ.คะนอง โสมทอง ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาประจำสภ.ดงเย็น ว่า ได้มีการกระทำความผิดอาญาเกิดขึ้นกล่าวคือ จำเลยได้แจ้งข้อความว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2560 ผู้แจ้งได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับนางจรูญ เฮก ที่วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท โดยออกเงินกันคนละ 250 บาท ตกลงกันว่าเมื่อถูกรางวัลจะแบ่งคนละครึ่ง โดยมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้ นางจรูญ เฮก เก็บรักษาไว้

ต่อมาวันที่ 1 เม.ย. 2560 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ประกาศรางวัลปรากฏว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 ที่ตนและนางจรูญ ร่วมกันซื้อไว้ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท เมื่อตนทวงถามนางจรูญ ได้บ่ายเบี่ยงตลอดมา จึงมาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนางจรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ของผู้อื่นจนกว่าคดีถึงที่สุดความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352

Advertisement

ซึ่งการแจ้งข้อความดังกล่าวของจำเลยนั้นเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงจำเลยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยมิได้ร่วมกับนางจรูญ ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล หมายเลข 392785 จำเลยและนางจรูญ ผู้เสียหาย มิได้ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย. 2560 และนางจรูญ ก็มิได้เป็นผู้กระทำผิดอาญาแต่ประการใด การที่จำเลยได้นำความเท็จดังกล่าวแจ้งนั้น ทำให้นางจรูญได้รับความเสียหาย โดยเป็นการเพื่อจะแกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ อันเป็นการแจ้งความเท็จว่านางจรูญ ได้กระทำความผิดอาญา เหตุเกิดที่ ต.ดงเย็น อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ขอให้ลงโทษตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,173, 174

โดยวันนี้ พนักงานสอบสวนสภ.ดงเย็น อ.บ้านดุง ผู้เสียหายที่ 1 และ นางจรูญ หรือ ป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2 เดินทางมาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ เห็นว่า ข้อเท็จจริงได้ความจากพนักงานสอบสวนสภ.ดงเย็น พยานโจทก์ซึ่งให้การสอดคล้องกันว่า นางเรวดี หรือป้าติ้น จำเลยมาแจ้งความว่าลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเลข 392785 จำนวน 5 คู่ เป็นเงิน 500 บาท โดยออกเงินคนละครึ่งกับผู้เสียหายที่ 2 ปรากฏว่า ผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดวันที่ 1 เม.ย.2560 หมายเลข 392785 ถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท แต่เมื่อไปทวงถามกับผู้เสียหายที่ 2 กลับไม่ได้เงินบ่ายเบี่ยง จึงต้องการแจ้งความฐานยักยอกทรัพย์ แต่ภายหลังรับแจ้งความพนักงานสอบสวนได้ไปตรวจสอบการรับรางวัลของผู้ถูกสลากงวดดังกล่าวพบว่าหมายเลขชุด ทั้งหมด 5 ชุด ที่จำเลยอ้างว่าซื้อไว้นั้นมีผู้มาขึ้นรับรางวัล โดยหมายเลขชุดดังกล่าวที่จำเลยอ้าง ไม่ได้รวมอยู่ในชุดเดียวกันตามที่จำเลยอ้าง อีกทั้งลายมือชื่อที่จำเลยอ้างว่า ลงไว้หลังสลากนั้น เมื่อตรวจสอบแล้วไม่พบการแก้ไขหรือร่องรอยการขูดลบลายชื่อแต่อย่างใด เชื่อว่า พยานไม่เคยรู้จักกับจำเลยและผู้เสียหายที่ 2 มาก่อน เชื่อว่าเบิกความไปตามความจริง

Advertisement

พยานหลักฐานของจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้อีกทั้งผู้เสียหายที่ 2 ไม่ได้ซื้อเลขรางวัลที่ 1 ไม่ได้รับรางวัล 30 ล้าน ตามที่จำเลยไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายที่ 1 แต่อย่างใด การกระทำของจำเลยเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่อมาพนักงานสอบสวนสภ.ดงเย็น มีคำสั่งไม่สมควรฟ้อง ผู้เสียหายที่ 2 พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137,173 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานแจ้ง แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน คำให้การของจำเลยมีประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คง จำคุกเป็นเวลา 12 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนคดีที่นางเรวดี หรือป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือป้าเล็ก อายุ 59 ปี ตกเป็นจำเลยในข้อหาแจ้งความเท็จลักษณะเดียวกัน กรณีเมื่อปี 2559 นางเรวดีและนางวิไลพร ได้เข้าแจ้งความตำรวจ สน.ประเวศ ว่าถูกนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ซึ่งถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย. 2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ศาลอาญามีนบุรีได้นัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 30 ก.ย.นี้

ต่อมาภายหลังญาติของ นางเรวดี หาแก้ว หรือ “ป้าติ้น” ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสดจำนวน 1 แสนบาทเพื่อขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ศาลพิจารณาเเล้วมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว

ต่อมา นางเรวดี หรือ ป้าติ้น ที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับเรื่องของคดีโดย “ป้าติ้น” ตอบเพียงสั้น ๆ ว่า ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่ได้คิดอะไรตอนนี้ ส่วนคู่กรณีคนอื่น ๆ ก็ไม่ได้คุยกัน ตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก พร้อมขอตัวเดินทางกลับบ้านก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image