นำ ‘ไอ้พงษ์’ ทำแผนประกอบฆ่าชิงทรัพย์ ตา-ยาย รับสารภาพต้องการทรัพย์สิน ได้เงินสดไปกว่า 1 หมื่นบาท ท่ามกลางเสียงสาปแช่งไทยมุง หวิดถูกประชาทัณฑ์ หลังก่อเหตุได้ขี่รถ จยย.หลบหนีพาเมีย-ลูกไปเช่าโรงแรมที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พฤติกรรมคนร้ายโหดเหี้ยมเคยฆ่าพี่ชายแท้ๆ ของตัวเองตายมาแล้ว เพิ่งออกจากคุกมาก่อคดีอีก ลูกผู้ตายขอให้ลงโทษประหารตายตามกัน
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี รายงานความคืบหน้าจากกรณี 2 สามีภรรยา คือนางบุญหลาย จอมวัน อายุ 62 ปี และนายสมบูรณ์ ทักษิโณ อายุ 68 ปี ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านขายของชำซึ่งเป็นบ้านเช่าของทั้งคู่ จากนั้นได้เคาะประตูบ้านเช่าที่เปิดเป็นร้านค้าขายของชำ เรียกขอให้เปิดร้านซื้อเหล้าก่อนจะใช้สายไฟพัดลมรัดคอ พร้อมใช้มีดปอกผลไม้แทง-ปาดคอ 2 ผัวเมียจนเสียชีวิตคาห้องเช่าที่เปิดเป็นร้านค้าขายของชำทั้งคู่ แล้วอาศัยช่วงมืดค่ำขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปตามถนนสายสุวรรณศร (ประจันตคาม-กบินทร์บุรี) หรือสาย 33 ก่อนมีเพื่อนบ้านได้กลิ่นศพ เปิดห้องเช่าออกดูพบศพสองสามีภรรยาตายสภาพศพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมานานกว่า 3-4 วัน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานมาจากเหตุความแค้นส่วนตัว หรืออาจเป็นการชิงทรัพย์ โดยหลังเกิดเหตุพบมีเพื่อนบ้านในห้องเช่าแถวเดียวกันห้องที่ 12/12 ทราบว่าชื่อนายสมพงษ์ ภูถนนนอก อายุ 29 ปี ชาว อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ได้พาครอบครัวหายไป
สถานที่เกิดเหตุห้องแถวเช่าปูนชั้นเดียว หมู่บ้านหนองตาหนวด ตรงข้ามโรงเลื่อยจักรศรีประจันตคาม หมู่ 1 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ล่าสุดเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกำเร่งติดตามจากสัญญาณเบสโทรศัพท์มือถือของคนร้าย นายสมพงษ์ ภูถนนนอก อายุ 29 ปี เลขที่ 25/2 หมู่ 11 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยสืบทราบว่า นายสมพงษ์ได้พาภรรยาพร้อมบุตรสาววัย 5 เดือน ขับรถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นมาโคร มาเช่าโรงแรมบดินทร์ทิพย์ หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมช่วงหัวค่ำวานนี้ (15 ส.ค.) พบของกลางรถ จยย.คันก่อเหตุ, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์พร้อมกระสุนปืนแบบลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 นัด และเสื้อลายพรางทหารตัวที่สวมก่อเหตุตามที่ได้นำเสนอโดยต่อเนื่องนั้น
เวลา 08.00 น. พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ พร้อมด้วย พล.ต.ต.จรัลจิต เจือจุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 และนายชวนินทร์ วงศ์สถิติจิรกาล นายอำเภอประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี เดินทางมาที่ สภ.ประจันตคาม จากนั้นได้ร่วมสอบปากคำนายสมพงษ์ ตัวผู้ก่อเหตุ ใช้เวลานานกว่า 30 นาทีเศษ จากนั้นได้นำผู้ต้องหาขึ้นรถตู้ไปชี้จุดทิ้งกระเป๋าคาดเอวของเจ้าทรัพย์ที่ชิงทรัพย์ไป ที่ริมถนนสายสุวรรณศร (ประจันตคาม-กบินทร์บุรี) แต่ไม่พบ
ต่อมาเวลา 10.00 น. ได้นำตัวนายสมพงษ์ ตัวผู้ก่อเหตุ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่ห้องแถวเช่าจุดเกิดเหตุ ริมถนนสายสุวรรณศร (ประจันตคาม-กบินทร์บุรี) หรือสาย 33 ท่ามกลางประชาชนในพื้นที่กว่า 50 คนมุงดู หลายคนต่างตะโกนสาปแช่ง จากนั้นประชาชนที่มามุงดูโกรธแค้น พากันกรูเข้ามาเพื่อจะทำร้าย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกันไว้ได้ทัน ซึ่งมีกำลัง นปพ.อาวุธครบมือคุ้มกันกว่า 50 นาย กระจายกำลังป้องกันอย่างหนาแน่นรอบบริเวณ จนกระทั่งทำแผนเสร็จใช้เวลานานกว่า 60 นาที จึงนำตัวกลับ
โดยการทำแผนได้ให้นายสมพงษ์ ผู้ก่อเหตุ แสดงขั้นตอนในการลงมือ เริ่มจากมาเคาะประตูห้องเช่าของผู้เสียชีวิตโดยขอซื้อเหล้า แต่นายสมบูรณ์ ทักษิโณ อายุ 68 ปี เจ้าของห้องไม่ขายเนื่องจากนายสมพงษ์ยังติดหนี้เก่าค่าเหล้าอยู่ จนนายสมพงษ์เกิดความโมโหได้ใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมมาแทงเข้าใต้กกหูขวาของนายสมบูรณ์ล้มลงทั้งยืน พร้อมปลดกระเป๋าเงินที่คาดที่เอวไป มีเงินสดกว่า 1 หมื่นบาทเศษ เป็นช่วงที่นางบุญหลาย จอมวัน อายุ 62 ปี ภรรยาของนายสมบูรณ์ตื่นมาพบเหตุการณ์จึงเข้าช่วยเหลือสามี และพยายามจะร้องให้เพื่อนบ้านช่วยเหลือ โดยได้ดึงเสื้อนายสมพงษ์คนร้าย และนางบุญหลายล้มลง นายสมพงษ์ได้เอามือล็อกคอพร้อมใช้สายไฟพัดลมรัดคอจนหมดสติ จากนั้นได้ใช้มีดปอกผลไม้ที่เตรียมแทง-เชือดคอนางบุญหลายจนเสียชีวิตเป็นรายต่อมาทั้งผัว-เมีย ก่อนที่จะไปเอารถ จยย.ยี่ห้อคาวาซากิ รุ่นมาโครของตนเองในห้องเช่าห้องที่ 12 ขับออกมาจอดหน้าห้องเกิดเหตุ และล็อกห้องเช่าตา-ยายปิดไว้ ก่อนอาศัยความมืดหลบหนีไปตามถนนสายสุวรรณศร ไปเช่าห้องพักที่โรงแรมบดินทร์ทิพย์ หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมภรรยาและบุตรสาววัย 5 เดือนเศษ จนถูกติดตามจับกุมได้จากสัญญาณเบสโทรศัพท์ดังกล่าว
พล.ต.ต.เชษฐากล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าคนร้ายก่อนลงมือก่อเหตุได้ดื่มเหล้าก่อน ได้ทรัพย์สินเป็นเงินสดไปหมื่นกว่าบาท แรงจูงใจคือประสงค์ต่อทรัพย์-ติดหนี้ ที่ติดค่าเหล้าไว้กว่า 1,000 บาท ก่อนหน้านี้คนร้ายเคยมีคดีความฆ่าคนตายมาก่อน เพิ่งพ้นโทษ และมีภรรยาเพิ่งคลอดบุตรสาววัย 5 เดือนเศษ ผู้ต้องหารับสารภาพข้อกล่าวหาทั้งหมดคือต้องการชิงทรัพย์ ส่วนภรรยาไม่เกี่ยวข้อง เป็นผู้ลงมือเพียงคนเดียว ก่อนหลบหนีไปที่อำเภอศรีมหาโพธิ ทั้งนี้ ไม่ได้มีเรื่องส่วนตัว ส่วนที่ต้องฆ่ายายตายอีก 1 คนนั้น เนื่องจากคุณยายต้องการช่วยเหลือตาซึ่งเป็นสามี หลังยายตื่นนอนมาพอดีเลยฆ่าปิดปากโดยตั้งข้อกล่าวหาชิงทรัพย์ และทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนเรื่องอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง
ด้านพลทหารทะนงศักดิ์ ทักษิโณ บุตรชายของตา-ยาย ผู้เสียชีวิต และลูกสะใภ้ ได้เข้าไปกล่าวขอบพระคุณรองผู้บัญชาการภาค 2 ว่า “สามารถจับผู้ก่อเหตุได้ภายในไม่เกิน 24 ชั่วโมง ขอขอบพระคุณท่านมากที่ได้ทำงานอย่างรวดเร็ว” พร้อมร่วมกล่าวว่า “ทำอะไรไม่ถูก ช็อกอยู่เพราะว่ายังโทรคุยกันกับแม่ตอนเช้า ยังโทรไปคุยกับแม่อยู่เลย ประมาณกลางคืนแม่ตาย ยังทำใจไม่ได้รู้สึกช็อก พ่อกับแม่แก่แล้ว ต่อสู้ไม่ได้อยู่แล้ว ไม่มีแรงที่จะไปสู้ แค่ผลักก็ล้มลงอยู่แล้ว ขอให้ลงโทษประหารอย่างเดียว จิตใจโหดเหี้ยมมาก เดี๋ยวออกมาก็ไปทำกับคนอื่นอีก”
