เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 7 มิถุนายน ร.ต.อ.จักราวุธ ดอนประจำ รอง สว.(สอบสวน) สน.คลองตัน รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ในซอยปรีดีพนมยงค์ 46 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา รุดไปพร้อม พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ หงส์ทอง ผกก.สน.คลองตัน พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รองผกก.สส.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวร นิติเวชฯ รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเข้าไปในซอยประมาณ 300เมตร บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ท สาขาปรีดีพนมยงค์46.2 พบศพนายสมทรง แพงไข่ อายุ 27 ปี สภาพนอนจมกองเลือด อยู่หน้าร้าน ตรวจสอบพบว่าถูกอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ราวนมด้านซ้าย ด้านขวา และขาซ้าย รวม 3 แผล ใกล้กันพบรอยหยดเลือดไหลเป็นทางยาวประมาณ 100 เมตร ไปจนถึงด้านหน้าอาคาร 3เค แมนชั่น มีรอยเลือดและปลอกกระสุน 3 ปลอก และพบรอยเลือดกองใหญ่ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้มีผู้ถูกลูกหลง1ราย ทราบชื่อ นายธิชากร คำแว่น อายุ 25 ปี ถูกยิงเข้าที่แขนขวาได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่ง รพ.เพชรเวช ขณะมานั่งรับประทานอาหารอีสานฝั่งตรงกันข้าม
จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในอาคารสามารถจับภาพคนร้ายสวมเสื้อยืดคอปกแขนสั้นสีน้ำเงิน กางเกงยีนขายาวแบบรัดรูปสีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าแบบสะพายข้างสีดำ ขณะกำลังวิ่งเข้ามาภายในตัวอาคารแมนชั่นแล้วชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาดออกมาคล้ายเป็นการสไลด์ขึ้นลำไกก่อนจะวิ่งออกไปก่อเหตุยิงใส่กลุ่มผู้เสียชีวิต ทางตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเพื่อนผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุพวกตน4-5คน นั่งดื่มสุราอยู่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามแมนชั่นดังกล่าว ขณะนั้นมีนายต่อ(ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) เพื่อนอีกคนเข้ามานั่งด้วย ก่อนจะนำถุงพลาสติกบรรจุอุปกรณ์การเสพยาไอซ์มาวางไว้ พวกตนกลัวมีปัญหาจึงนำไปทิ้งขยะ จากนั้นเกิดมีปากเสียงกัน จนมีเรื่องชกต่อย นายต่อสู้ไม่ได้จึงได้วิ่งเข้าไปในแมนชั่น พวกตนจึงวิ่งกรูตามเข้าไป พบว่านายต่อนำอาวุธปืนออกมาไล่กราดยิงใส่ 4 นัด ก่อนที่พวกตนจะวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง ส่วนนายสมทรงพยายามวิ่งหนีเอาชีวิตรอด พร้อมตระโกนให้ชาวบ้านละแวกนั้นเรียกรถพยาบาล ก่อนมาทรุดลงกับพื้นเสียชีวิตที่ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า วัยรุ่นชายที่ก่อเหตุ ทราบชื่อต่อมา คือ นายนครินทร์ ทองแม้น อายุ 21 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งพักอาศัยห้องพักบนชั้น 3 ของอาคารแห่งนี้ หลังก่อเหตุได้ทิ้งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน 2กฮ5347กรุงเทพมหานครไว้ภายในลานจอดรถตัวอาคาร ก่อนจะขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีดำ(ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน) หลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบพยานแวดล้อมทั้งหมด รวมทั้งเร่งประสานขอภาพจากกล้องวงจรปิดของตัวแมนชั่น ร้านสะดวกซื้อ และตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนี เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่สน.คลองตัน พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบก.น.5 แถลงจับกุมนายนครินทร์ ทองแม้น อายุ 21 ปี พนักงานเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่ง ชาว จ.สุรินทร์ พร้อมของกลางอาวุธปืนออโตเมติก ยี่ห้อสมิทแอนด์วิลสัน ขนาด 9 มม. 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด 9 มม. 39 นัด กระเป๋าหนังสะพายข้าง สีดำ-น้ำตาล จำนวน 1 ใบ และผลตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณถนนสาย 36 (ก่อนขึ้นสะพานต่างระดับคีรี) หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี
พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวว่า หลังจากนายนครินทร์ก่อเหตุยิงได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน 4 กง 9648 กรุงเทพมหานคร หลบหนีมุ่งหน้าทางถนนมอเตอร์เวย์ ฝั่งขาออกมุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.คลองตัน จึงร่วมกันติดตามพร้อมทั้งประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี จ.ชลบุรี เพื่อช่วยกันสกัดจับก่อนสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้พร้อมของกลางที่บริเวณดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่สน.คลองตัน
ด้านนายนครินทร์ กล่าวว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนจ่อยิงนายสมทรง จนเสียชีวิตจริง ส่วนนายธิชากร ไม่ได้ตั้งใจเพียงแค่ถูกลูกหลงเท่านั้น โดยก่อนเกิดเหตุพิ่งเสพยาไอซ์ จากนั้นได้มาพบกลุ่มผู้เสียชีวิตนั่งดื่มสุรากันที่บริเวณฝั่งตรงข้ามตึก 3 เค แมนชั่น จากนั้นได้นำถุงพลาสติกซึ่งซุกซ่อนอุปกรณ์เสพยาไปวางข้างๆกลุ่มนายสมทรง จนกระทั่งกลุ่มผู้ตายได้โวยวายเนื่องจากเกรงว่า หากตำรวจเข้ามาพบจะถูกดำเนินคดีจึงเกิดการโต้เถียงกันก่อนทางผู้เสียชีวิตจะร้องขอเบียร์จำนวน 6 ขวด ซึ่งตนไม่ให้จนมีปากเสียงกัน ซึ่งระหว่างนั้นผู้ตายได้เดินอ้อมมาทางด้านหลังก่อนชกต่อยตน จำนวน 1 ครั้ง จากนั้นกลุ่มเพื่อนผู้ตายจะเข้ามาช่วยกันรุมทำร้าย จึงเกิดบันดาลโทสะหยิบอาวุธปืนที่อยู่ในกระเป๋าสะพายข้างออกมาจ่อยิงนายสมทรง จำนวน 3 นัด และยิงป้องกันตัวอีก 1 นัด รวมทั้งหมด 4 นัด จากนั้นได้ขับรถยนต์คันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี ส่วนอาวุธปืนนั้นตนซื้อต่อมาจากเพื่อนที่อยู่ในจังหวัดสุรินทร์ ในราคา 5 หมื่นบาท และกระสุนปืน ในราคากล่องละ 1,200 บาท กระทั่งมาถูกทางเจ้าหน้าที่เข้าสกัดจับกุมได้ดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ,พยายามฆ่าผู้อื่น ,มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ,ยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพแต่เกรงโดนประชาทัณฑ์จึงยกเลิก
