เพชรบูรณ์-ชุดไล่ล่าวิสามัญผู้ต้องหายิงจนท.เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวกลางป่าอุทยานฯน้ำหนาว พร้อมรวบภรรยาได้อีก 1 พร้อมเป้ใส่ไม้กฤษณาของกลางอีก 2 ใบ ในขณะที่มีผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ 2 ราย
วันที่ 28 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 มกราคม เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 3 นำโดย พ.ต.ท.ศุภชัย ปักโคทานัง สว.สส., ร.ต.อ.วิชานนท์ บ่อพิมาย สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ เพื่อไล่ล่านายบุญเล็ง สายทองคู่ หรือ ”ทอง” อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาคดียิงนายประสิทธิ์ คุ้มหมู่ หัวหน้าชุดพนักงานพิทักษ์ป่าภูเขียว(ทุ่งกะมัง) โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา บริเวณกลางป่าลึกของอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว หลังจากได้รับรายงานจากสายข่าวว่านายบุญเล็งพร้อมพวกเข้าป่ากันอีกครั้ง
จากนั้นต่อมาได้มีรายงานเพิ่มเติมว่า กำลังเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ทำการวิสามัญนายบุญเล็งแล้ว และจับกุมนางอรณัส แก่นโพธิ์ หรือ “ดับ” แก่นโพธิ์ อายุ 35 ปี ภรรยานายบุญเล็งได้ 1 ราย นอกจากนี้มีผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมไปได้ 2 ราย และในจุดเกิดเหตุยังพบกระเป๋าเป้บรรจุไม้กฤษณาจำนวน 2 ใบ กระทั่งเวลา 18.00 น.หลังได้รับแจ้ง พ.ต.ท.สมศักดิ์ สาคร พนักงานสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.หล่มสัก พร้อมแพทย์เวรและอาสาสมัครกู้ภัย ได้เดินเท้าเข้าไปในจุดเกิดเหตุซึ่งอยู่กลางป่าอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว โดยใช้ระยะเดินเท้าทั้งไปและกลับไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง
โดยในจุดเกิดเหตุพบร่างนายบุญเล็งถูกยิงเสียชีวิต โดยสภาพศพนอนจมกองเลือดอยู่กับพื้นดิน โดยมีปืนลูกซองยาวตกอยู่บริเวณข้างตัว หลังแพทย์เวรทำการชันสูตรพลิกศพแล้ว ทางอาสาสมัครกู้ภัยจึงช่วยกันห่อศพและแบกนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากป่าอย่างทุลักทุเล โดยมาถึงที่ทำการอุทยานฯน้ำหนาวเมื่อเวลาราว 04.00 น.ของวันนี้(28 ม.ค.)
ด้านพ.ต.ท.ศุภชัย ปักโคทานัง หัวหน้าชุดไล่ล่ากล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้จัดชุดฝังตัวในพื้นที่มาโดยตลอด กระทั่งได้รับเบาะแสชัดเจนว่านายบุญเล็งพร้อมพวกจะเข้าป่าอีกครั้ง จึงวางแผนเข้าทำการซุ่มจับกุม ซึ่งระหว่างเกิดเหตุนายบุญเล็งพร้อมพวกกำลังเดินออกจากป่า โดยนายบุญเล็งเดินถือปืนมากับภรรยาส่วนอีก 2 คนเดินล่วงหน้ามาก่อนโดยทิ้งระยะห่างกันพอสมควร หลังเจ้าหน้าที่แสดงตัวเพื่อจับกุมนายบุญเล็งซึ่งถือปืนแนวเฉลียงในลักษณะระมัดระวังตัวอยู่แล้ว ได้ง้างนกจากนั้นยกปืนเหวี่ยงขึ้นทำท่าจะยิงต่อสู้ เจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมพร้อมอยู่แล้วจึงตัดสินใจลั่นกระสุนใส่ทั้งที่เดิมตั้งใจจะจับเป็น
“ส่วนนางอรณัส หรือนางดับ ภรรยานายบุญเล็งยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ซึ่งล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาเข้าป่าและเก็บของป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อดำเนินคดีแล้ว สำหรับผู้ต้องหาที่หลบหนีอีก 2 คนก็จะมีการออกหมายจับกันในภายหลัง” พ.ต.อ.ศุภชัยกล่าว
พ.ต.อ.ศุภชัยกล่าวว่า สำหรับการเข้าจับกุมในครั้งนี้ความยากลำบากอยู่ตรงที่ผู้ต้องหาเป็นพราน ซึ่งมีความชำนาญเรื่องพื้นที่อยู่แล้วซึ่งแตกต่างกับเจ้าหน้าที่ แต่ทั้งนี้เนื่องจากได้รับการสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯน้ำหนาว และมีการวางแผนค่อนข้างรัดกุม จึงทำให้การเข้าจับกุมผู้ต้องหารายนี้ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ไม่มีการสูญเสียหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด