“ศาลทรัพย์สินฯ”พิพากษา “สมาคมฟุตบอล” ชดใช้เงิน 50 ล้านพร้อมดอกเบี้ยนับจากวันฟ้องปี60 ให้ “สยามสปอร์ต” ผิดข้อพิพาทสัญญาลิขสิทธิ์ ขณะที่ให้สยามสปอร์ต ชดใช้ 240 ล้าน บ.ซีนีเพล็กซ์ รอลุ้นอุทธรณ์คดียกสอง
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ ศาลได้มีคำพิพากษาคดีแพ่ง ในคดีหมายเลขดำ ทป.32,79/2560 (คดีหมายเลขแดง ทป.142 ,143/2562) ที่ บริษัทสยามสปอร์ตซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กับพวกรวม 20 ราย เป็นจำเลย เรื่องผิดสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิลิขสิทธิ์
กรณีพิพาทสัญญากำหนดค่าตอบแทนสิทธิประโยชน์ ระหว่าง สมาคมฯ กับ บ.สยามสปอร์ตฯเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมและไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขของสัญญาครบถ้วน
โดยเมื่อคดีทั้ง 2 สำนวน มีประเด็นเกี่ยวเนื่องใกล้ชิดกันพยานหลักฐานหลักหลายขึ้นเป็นพยานหลักฐานเดียวกัน คู่ความหลักบางรายอยู่ในคดีทั้งสองเรื่อง ศาลจึงมีคำสั่งให้รวมการพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อจะเป็นการสะดวกรวดเร็วและก่อให้เกิดความถูกต้องเป็นธรรมยิ่งกว่าการแยกพิจารณา โดยให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นจำเลยที่ 1 , พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ จำเลยที่ 2 , นายทรงธรรม เพียรพัฒนาวิทย์ จำเลยที่ 3 , นายศุภสิน ลีลาฤทธิ์ จำเลยที่ 4 , นายธนศักดิ์ สุระประเสริฐ จำเลยที่ 5 , นายวิทยา เลาหกุลจำเลยที่ 6 , นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ จำเลยที่ 7 , นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ จำเลยที่ 8 , นายทรงเกียรติ ลิ้มอนุสรณ์ จำเลยที่ 9 , นายกองโทสุวิทย์ พิพัฒน์วิไลกุลจำเลยที่ 10 , นายสมเกียรติ กิตติธรกุล จำเลยที่ 11 , นายทรงยศ เทียนทอง จำเลยที่ 12 , พล.ร.อ.นาวิน ธนเนตร จำเลยที่ 13 , นายธวัช อุยสุย จำเลยที่ 14 , น.ส.นันทนี วงศ์อำนิษฐกุล จำเลยที่ 15 , นายวิชิต คนึงสุขเกษม จำเลยที่ 16 , นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล จำเลยที่ 17 , นายธนวัชร์ นิติกาญจนา จำเลยที่ 18 , นายณัฐ ชยุติมันต์ จำเลยที่ 19 และบริษัท ซีนีเพล็กซ์ จำกัด จำเลยที่ 20
ขณะที่ ศาลทรัพย์สินฯ พิเคราะห์พยานหลักฐานที่ทั้งสองฝ่ายนำสืบแล้ว ให้บ.สยามสปอร์ตฯโจทก์ ชำระเงิน 240 ล้านบาท (ฟ้องเเย้ง)บ.ซินีเพล็กซ์ฯ จำเลยที่ 20 พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 5 ก.พ.59 จนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น ส่วนคำขออื่นของจำเลยที่ 20 ให้ยก
และพิพากษาให้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จำเลยที่ 1 ชำระเงินให้ บ.สยามสปอร์ตฯ เป็นเงิน 50 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันฟ้องที่ 27 มิ.ย.60 จนกว่าจะชำระเสร็จ ส่วนคำขออื่นของ บ.สยามสปอร์ตฯ โจทก์ให้ยก
โดย ศาลทรัพย์สินฯ ยังมีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยที่ 2-20 ด้วย ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมทั้ง 2 สำนวนให้ผู้แพ้คดี ชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนผู้ชนะด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอย่างไรก็ดีคำพิพากษาดังกล่าวถือเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้น หากคู่ความยังมีประเด็นโต้แย้งก็สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ศาลอ่านคำพิพากษานี้ (23 ส.ค.62)
