กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “เสือ ดุสิต” โพสต์ภาพตัวเองโชว์ลายสักพร้อมระบุ “ชีวิตผมไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว ผมแค่ไปเอาเงินคืนก็ต้องตามที่ผม ครอบครัวผมไม่เกี่ยวลูกผู้ชายหน่อยคับตราหน้าผมไว้เลย ผมอะเด็กสายไหมเงินแค่นี้ท่านไม่สะดุ้งหรอก ท่านก็คิดสะว่าทำบุญ” ก่อนมีภาพปรากฎชายดังกล่าวบุกเข้าปล้นบ่อนการพนันในพื้นที่ สน.บางเขน
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 สิงหาคม พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน กล่าวภายหลังมีภาพ เผยแพร่ในโซเชียลว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยได้ลงพื้นที่ตรวจหาบ่อนการพนันในย่านสะพานใหม่ตามที่กล่าวอ้าง แต่กลับพบเพียงห้องเปล่า ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยพหลโยธิน50 อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ติดตามตัวนายเสือ มาสอบปากคำ ซึ่งเบื้องต้นทางญาติของนายเสือได้ประสานเข้ามอบตัว แต่ก็ได้สั่งชุดสืบสวนให้ติดตามตัวมาสอบด้วย เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะดำเนินคดีในข้อหาใดบ้าง ส่วนบ่อนการพนันถ้าพบว่าเปิดให้ลักลอบเล่นจริง ก็จะต้องเรียกเจ้าของสถานที่มาดำเนินคดีเช่นกัน
รายงานแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนตำรวจนครบาล 2 และสน.บางเขน ได้ควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ ริมเถื่อน หรือ “เสือ ดุสิต” อายุ 33 ปี และนายวัชระหรือโจ๊ก มากจงดี อายุ 22 ปี 2 บุคคลที่ปรากฎในภาพดังกล่าวมาสอบปากคำทราบความว่า โดยนายเสือและนายโจ๊ก ได้เข้าไปเล่นการพนันในบ่อนดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยบ่อนดังกล่าว เป็นบ่อนที่ลักลอบเปิดให้ชาวบ้านเล่นได้ประมาณ 2-3 วัน ซึ่งบุคคลทั้งสองได้เล่นเสียเงินไปประมาณ 20,000 บาท ภายหลังมีคนที่อยู่ในบ่อน บอกให้นายเสือเลิกเล่น เพราะบ่อนนี้บังคับลูกเต๋าได้ ทำให้นายเสือเกิดความโมโหและโวยวายขึ้น เมื่อเห็นว่าคนคุมบ่อนจะกรูเข้ามาหา จึงชักอาวุธปืนบีบีกันที่พกติดตัวมาข่มขู่พนักงานภายในบ่อนให้เอาเงินคืนตนตามภาพที่เป็นข่าว หลังเกิดเหตุทางบ่อนก็ได้เข้ามาพูดคุยตกลงกันกับนายเสือว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด ส่วนเรื่องจำนวนเงินที่นายเสือ เสียไปบ่อนก็ได้คืนให้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ใช่การบุกปล้นตามที่เป็นข่าว
ส่วนเรื่องราวที่โพสต์ในเฟซบุ๊กของตน “เสือ ดุสิต” ที่บอกว่า ถ้าจะมาทวงเงินคืนก็ให้มาตามที่ตน ไม่ต้องไปตามกับครอบครัวของตนนั้น เป็นเรื่องที่เจ้าตัวโมโห เพราะมีคนมาทวงเงินกับแฟนว่า “เล่นเสียแล้วมาทวงเงินคืนกับบ่อนได้ยังไง”
รายงานแจ้งต่อว่า สำหรับบ่อนการพนันดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ด้านหลังบิ๊กซี สาขาสะพานใหม่ ภายในซอยพลหโยธิน 50 แยก1 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน โดยมีเจ้าของชื่อ “นาย ต.” และ “นาย ก.” เป็นเจ้าของ