ดีเอสไอลงพื้นที่สอบปากคำ อดีตตร.ทำคดีบิลลี่หายตัว – ไม่รู้ ‘บุญแทน’ หายไปไหน

เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดี เอสไอ) เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี การเสียชีวิตของนายพอละจี รักจงเจริญ หรือบิลลี่ แกนนำกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่า ดีเอสไอกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมหลักจากประชุมแบ่งชุดทำงาน เมื่อวันจันทร์ ตอนนี้ขอเวลา1 สัปดาห์เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอและพนักงานสอบสวนเก็บข้อมูลสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องในคดี ส่วนสำนวนเจ้าหน้าที่อุทยานฯที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับควบคุมตัวนายพอละจี โดยมิชอบนั้นดีเอสไอกำลังรอสำนวนจากทางป.ป.ช.และป.ป.ท. คาดว่าคงใช้เวลาดำเนินการอีกไม่นาน

เมื่อถามว่าในส่วนของนายบุญแทน บุศราคัม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน 1 ใน 4 ชุดจับกุมนายบิลลี่มาและหายตัวไป พ.ต.ท.ไพสิฐ กล่าวว่า. ตนไม่ทราบข้อมูลดังกล่าว ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจเช็กข้อเท็จจริงดังกล่าว ทราบแต่เพียงว่าเจ้าตัวขาดราชการไปหลายวันแล้ว ทั้งนี้ดีเอสไอยังไม่ได้สอบปากคำหรือนำตัวนายบุญแทนมาเป็นพยานในคดีแต่อย่างใด

ด้านพ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอไอส กล่าวว่า ได้มอบหมายงานให้พนักงานสอบสวนลงพื้นที่เพื่อสอบปากคำพ.ต.อ.ไตรวิช น้ำทองไทย อดีต รองผบก.สส.ภาค 7 หัวหน้าทีมสืบสวนคดีการหายตัวไปของ นายพอละจี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ประสานเดินทางไปสอบปากคำที่พื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวก เนื่องจากอดีตรองผบก.สส.มีหน้าที่รับผิดชอบในการดคีในช่วงเวลาดังกล่าวและมีข้อมูลว่านายพอละจีไม่ได้ถูกปล่อยตัว ตามคำเห็นที่ส่งสำนวนไปยังป.ป.ท. ดังนั้นดีเอสไอจำเป็นต้องสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวน อย่างไรก็ตามในคดีพยานที่เกี่ยวข้องรายอื่นๆชุดพนักงานสอบสวนได้ลงพื้นสอบปากคำเก็บข้อมูลอย่างต่อเนื่อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image