อัยการฟ้อง’ปุ๊กกี้ ชาลาลา’-แฟนกับแก๊งค้ายา อดีตนักร้องสารภาพผิดเฉพาะค้ายาไต้หวันปฏิเสธฟอกเงิน

แฟ้มภาพ

อัยการฟ้องแล้ว’ปุ๊กกี้ ชาลาลา’-แฟนหนุ่มกับแก๊งค้ายา อดีตนักร้องสารภาพผิด เฉพาะข้อหาค้ายาไต้หวันปฏิเสธฟอกเงิน ศาลเบิกตัวมาสอบคำให้การเช้า 11 ก.ย.

เมื่อเวลา 16.15 น.วันที่ 10 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายหง เจิ้ง อี้ (MR.HUNG CHENG) อายุ 28 ปี ชาวไต้หวัน,นายชลวิทย์ หรือไก่ คีตะตระกูล อายุ 50 ปี ชาวกทม. ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของน.ส.ปริศนา หรือ พริสซิลลา จิวเมลลี่ อายุ 40 ปี ชาวกทม. อดีตนักร้องสาวชื่อดัง,นายกันต์ธร หรือมิว แก้วกระจ่าง อายุ 28 ปี ชาวกทม.และน.ส.ธาริณี หรือไหม ขาวบัณฑิต อายุ 27 ปี ชาว จ.พังงา เป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน,ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต,ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายโดยไม่ได้รับอนุญาต มีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทในประเภทที่ 2 ไว้มในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,เสพเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต

คำฟ้องโจทก์ระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า วันเวลาใดไม่ปรากฏชัด ประมาณปลายเดือนเม.ย.- 17 มิ.ย.2562 ต่อเนื่องกัน จำเลยทั้งห้ากับพวก ได้สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและร่วมกันกระทำความผิดฐานฟอกเงิน โดยมีการวางแผนแบ่งหน้าที่กันทำเป็นผู้จัดหา ครอบครองเก็บรักษายาเสพติดให้โทษ ลำเลียงยาเสพติดให้โทษ หาลูกค้าที่ต้องการยาเสพติดและเป็นเครือข่ายดำเนินการจัดการเกี่ยวกับด้านการเงินที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายยาเสพติดดังกล่าวโดยมีนายหวัง หยิง ซิน หรือโทนี่พวกของจำเลยเป็นผู้สั่งการ ส่วนนาย จง ยวีเลียง, นายหลีเจิ้นหยา, นายเหลียงเกิ่งเจีย, นายศักดิ์ชัย มหรสุขเจริญ ที่หลบหนีทำหน้าที่ลำเลียงขนยาเสพติด โดยจำเลยที่ 1 เป็นผู้เก็บรักษาขนลำเลียงยาเสพติดเพื่อส่งไปยังประเทศไต้หวัน ส่วนจำเลยที่ 2และ3 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดแล้วนำไปให้จำเลยที่ 1 ทำธุรกรรมด้านการเงิน ส่วนจำเลยที่ 4 มีหน้าที่จัดหายาเสพติดและนำมามอบให้จำเลยที่ 2 และ3 เพื่อทำธุรกรรมด้านการเงิน ส่วนจำเลยที่ 5 เป็นผู้ให้การช่วยเหลือดำเนินการจัดการเกี่ยวกับทางด้านการเงิน โดยใช้บัญชีธนาคารของผู้อื่นในการฝาก-ถอนเงิน โดยจำเลยทั้งห้าได้ใช้บัญชีเงินฝากธนาคารกสิกรไทยฯ จำนวน 4 บัญชี เพื่อรับโอนเงินที่ได้มาจากการซื้อขายยาเสพติด จำนวน 450,000 บาท จำนวน 4 ครั้ง รวมทั้งโอนเงินจากการซื้อขายยาเสพติดอีกจำนวน 500,000 บาท จำนวน 1 ครั้ง อันเป็นการซุกซ่อนที่มา หรือปกปิดที่มาของทรัพย์สิน
นอกจากนี้จำเลยทั้งห้ากับพวกยังได้ร่วมกันมีคีตามีน ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 ชนิดผลึกสีขาว จำนวน 4.980 ก.ก.เศษ

ต่อมาพวกจำเลยยังได้ร่วมกันมี เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ชนิดเกล็ดผลึกสีขาว 11 ซอง และชนิดเม็ด 8 เม็ด และ3,4 เมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครอง และอื่นๆ รวมทั้งที่เขี่ยบุหรี่ จำนวน 39 ชิ้นที่พวกจำเลยใช้ซุกซ่อนยาเสพติด โทรศัพท์เคลื่อนที่จำนวน 5 เครื่อง ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ และยึดเป็นของกลาง

Advertisement

เหตุเกิดที่ แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง และแขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.เกี่ยวพันกัน
ชั้นสอบสวนจำเลยที่ 1และ 2 ให้การรับสารภาพ ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ให้การรับสารภาพในข้อหาอื่น ส่วนจำเลยที่ 4 และ 5 ให้การปฏิเสธ ตลอดข้อกล่าวหา

ท้ายคำฟ้องพนักงานอัยการโจทก์ ระบุด้วยว่า หากจำเลยทั้งห้าขอปล่อยชั่วคราว โจทก์ขอคัดค้านเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงและยาเสพติดของกลางมีปริมาณมาก เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี
ศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ย.2036/2562 และเบิกตัวจำเลยทั้งห้าจากเรือนจำมาสอบคำให้การในวันที่ 11 ก.ย.นี้ เวลา 09.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image