รมว.ยธ.ถกปัญหายาเสพติดลุ่มน้ำโขง ขอปท.เพื่อนบ้านช่วยสกัดยา สามเหลี่ยมทองคำ

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่โรงแรมเจดับบลิว แมริออท ฮานอย กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ปส.) พร้อมด้วยคณะผู้แทน ป.ป.ส. เดินทางไปร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยการเสริมสร้างประสิทธิภาพของความร่วมมือในการต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดข้ามชาติ ระหว่างวันที่ 9 – 10  ก.ย. ซึ่งเป็นความร่วมมือของประเทศในแถบลุ่มน้ำโขง ประกอบด้วย ประเทศไทย เมียนมา ลาว กัมพูชา จีน และเวียดนาม พร้อมด้วยฟิลิปปินส์ สำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา ตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC)

นายสมศักดิ์ ได้กล่าวในที่ประชุมว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี ที่สำคัญในวันนี้ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทย และในนามของคณะผู้แทนไทย ขอแสดงความขอบคุณอย่างจริงใจ สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่น ตนขอแสดงความชื่นชมรัฐบาลเวียดนาม โดยกระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกรมตำรวจต่อสู้ยาเสพติด ที่ได้ริเริ่มจัดการประชุมที่สำคัญครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจแน่วแน่ ที่จะปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด รัฐบาลไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการต่อสู้กับปัญหายาเสพติดมาโดยตลอด ที่ผ่านมาพบว่าปริมาณของยาเสพติดที่ผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ เนื่องจากมีขบวนการค้ายาเสพติดรายใหม่ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและมีการขนส่งโดยใช้ระบบขนส่งที่ใช้เทคโนโลยีสมัยมากขึ้น

 

Advertisement

นายสมศักดิ์ ยังกล่าวอีกว่า รัฐบาลไทยได้ร่วมมือกับเมียนมา และ สปป.ลาว ดำเนินการจับกุมและปราบปรามอย่างเข้มงวด จนสามารถสกัดจับและทำลายแหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำอย่างได้ผลเป็นที่น่าพึงพอใจ ผลจากการดำเนินการดังกล่าวทำให้ขบวนการค้ายาเสพติดปรับเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงของยาเสพติดไปผ่านยังประเทศต่างๆในอนุภูมิภาค เพื่อออกสู่ประเทศเป้าหมาย ทำให้การแพร่กระจายของยาเสพติดกินวงกว้างมากขึ้น ตนขอเสนอว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการสืบสวนและปฏิบัติการระหว่างประเทศ และร่วมกันพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ให้สามารถบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน นอกจากนี้ เราควรช่วยกันควบคุมปัญหาการลักลอบลำเลียงสารตั้งต้นเข้าสู่แหล่งผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ และสกัดกั้นการแพร่กระจายของยาเสพติดสู่ภูมิภาค

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ขอขอบคุณประเทศสมาชิกในโครงการแม่น้ำโขงปลอดภัยทั้ง 5 ประเทศ คือ จีน กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม รวมถึงฟิลิปปินส์ หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐอเมริกา กรมตำรวจสหพันธ์ออสเตรเลีย และสำนักงานยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติที่ได้มาหารือและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อประโยชน์สุขของประชาชนและความมั่นคงของภูมิภาค

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลการประชุมที่สำคัญคือที่ประชุมได้รับรองแถลงการณ์ร่วม ซึ่งมุ่งเน้นความร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติดในภูมิภาคด้วยการสร้างเสริมความร่วมมือทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี การแลกเปลี่ยนข่าวสารและการข่าวที่ทันต่อเหตุการณ์ การร่วมกันจัดทำรายชื่อนักค้ายาเสพติด การควบคุมสารตั้งต้น การดำเนินกลยุทธ์เพื่อการจัดการกับปัญหายาเสพติด ตลอดจนการพัฒนากลไกต่าง ๆ ที่มีอยู่ในภูมิภาค เพื่อประสิทธิภาพของการควบคุมยาเสพติดในภูมิภาค.

จากนั้นภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ได้เข้าร่วมการประชุมทวิภาคีเวียดนาม-ไทยระดับรัฐมนตรีกับพล.ต.อ.โต เลิม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เวียดนาม เพื่อหารือถึงแนวทางการดำเนินงานด้านยาเสพติดของทั้งสองประเทศ ในโอกาสนี้ นายสมศักดิ์ ได้เชิญ พล.ต.อ. โต เลิม เข้าร่วมการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรีภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจ 7 ฝ่ายว่าด้วยการควบคุมยาเสพติดในอนุภูมิภาคซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายน 2562 ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยเมื่อวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้มีการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ พล.ต.ออง ตู รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และ พล.ต.สมหวัง ทำมะสิต รองรัฐมนตรีกระทรวงป้องกันความสงบ สปป.ลาว จากนั้นได้ร่วมรับประทานอาหารกับนานาชาติที่เข้าร่วมประชุม โดยได้มีการพูดคุยหารือถึงปัญหาต่างๆ

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image