เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 28 มกราคม ที่ สน.ทองหล่อ พ.ต.อ.ขจรพงศ์ จิตต์ภาคภูมิ ผกก.สน.ทองหล่อ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย ณรงค์ รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ พ.ต.ต.ภานุภัทร กิตติพันธ์ สว.สส.สน.ทองหล่อ ร.ต.อ.ชาคริต บุญเพิ่ม รอง สว.สส.สน.ทองหล่อ ร่วมกันนำกำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุมตัวนายรินทร์ดนัย หรือเบส อภิพงษ์โยธิน อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาพร้อมของกลางกัญชา หนัก 6 กิโลกรัม อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 สีเงิน จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุน 1 ซอง อาวุธปืนแบบไทยประดิษฐ์ ขนาด .380 สีดำ จำนวน 1 กระบอก พร้อมซองกระสุน 1 ซอง เครื่องกระสุนขนาด .380 จำนวน 50 นัด และกล่องพัสดุส่งไปรษณีย์ จำนวน 1 กล่อง โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณกลางซอยอรรถกวี (สุขุมวิท 22) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. เมื่อวันที่ 26 มกราคม เวลาประมาณ 14.10 น.ที่ผ่านมา
พ.ต.ต.ภานุภัทรเปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อสืบทราบว่ามีผู้ลักลอบขายยาเสพติดชนิดกัญชาในพื้นที่ กระทั่งรับแจ้งจากสายลับว่ามีการติดต่อนัดซื้อขายกัน ต่อมาเมื่อถึงวันเวลานัดหมายผู้ต้องหาได้ปรากฏตัวและส่งมอบกัญชาหนัก 1 กก. ในราคา 8,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวจับกุม
จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายังมีกัญชาอยู่ที่ห้องพัก 489 สุขุมวิท 22 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. อีกจำนวน 5 กก. พร้อมพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึด เมื่อไปถึงพบกัญชาจำนวน 5 กก.ซุกซ่อนไว้ และพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .380 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน .380 1 กล่อง (50 นัด) ต่อมาเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขยายผลจากโทรศัพท์มือถือของผู้ต้องหา พบข้อความการซื้อขายอาวุธปืนอีก 1 กระบอก โดยมีการส่งทาง EMS อยู่ที่ที่ทำการไปรษณีย์สามเสน ก่อนพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึด ซึ่งพัสดุดังกล่าวระบุชื่อผู้ส่งอรวรรณ (สงวนชื่อ-นามสกุลจริง) ชาว จ.ตราด และระบุชื่อผู้รับเป็นตัวผู้ต้องหาเอง เมื่อเปิดพัสดุพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .380 1 กระบอก จากนั้นนำตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่ สน.ทองหล่อ
พ.ต.ต.ภานุภัทรกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนนายรินทร์ดนัยยอมรับสารภาพว่าไม่มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จึงตัดสินใจมาขายยาเสพติดและอาวุธปืนผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งอาศัยช่องทางเฟซบุ๊กที่ใช้ติดต่อซื้อขายเป็นเพจปิด รับเฉพาะคนที่รู้จักถึงชักชวนกันเข้ามาติดต่อซื้อขายกันได้เท่านั้น ไม่อนุญาตบุคคลอื่นเข้ามาได้ โดยทำมาได้ระยะเวลากว่า 1 ปี สำหรับอาวุธปืนนั้นได้สั่งซื้อจากเพื่อนชื่อบิ๊ท (ไม่ทราบชื่อและนามสกุล) ที่รู้จักกันทางแอพพลิเคชั่นไลน์มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนซื้อเป็นปืนแบลงค์กัน หรือปืนจำลอง ที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมแทนอาวุธปืนจริงที่ไม่สามารถใช้ยิงได้จริง มาในราคา 17,000 บาท จะส่งอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนมาทางไปรษณีย์ หลังจากนั้นจะติดต่อช่างที่สามารถดัดแปลงปืนชนิดนี้ให้สามารถใช้ยิงกระสุนจริงได้ที่อยู่ จ.ตราด ในราคาค่าดัดแปลงนั้นตกอยู่ที่ประมาณ 2,000-5,000 บาท ก่อนนำมาจำหน่ายในราคากระบอกละ 12,000-20,000 บาท แล้วแต่สภาพรุ่นที่นิยม
นายรินทร์ดนัยกล่าวว่า ทุกครั้งจะอาศัยการส่งผ่านทางพัสดุไปรษณีย์ โดยนำสินค้าห่อด้วยฟอยล์แล้วใส่กล่องพัสดุ ระบุชื่อผู้ส่งปลอม และจัดส่งระบุชื่อผู้รับ ชื่อ-นามสกุลจริง แต่ให้รับที่ทำการไปรษณีย์ เนื่องจากสะดวกง่ายและลดความเสี่ยงถูกตำรวจจับกุม ส่วนกัญชาได้ซื้อมาจากนางทราย (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) จากชุมชนโรงหมูย่านคลองเตย โดยรู้จักคุยกันทางเฟซบุ๊กชื่อ “เบื่อพวกชอบอ้างเจ๊ ทรายลั้นลา” ในราคา กก.ละ 6,500 บาท จากนั้นนำมาจำหน่ายต่อในราคา 8,000 บาท และใช้ลักษณะการส่งสินค้าแบบเดียวกัน
“อย่างไรก็ตามทางตำรวจต้องสอบสวนขยายผลการจับกุมอีกครั้ง เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” สว.สส.กล่าว
