ส่งท้ายก่อนเกษียณ “ศรีวราห์” บุกทวงคืนผืนป่าจากนายทุน 700 ไร่ที่เมืองกาญจน์

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 กันยายน ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) สภ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ นายตำรวจประจำสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลพล.ต.ต.อภิชัย เทียนเพิ่มพูน รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รอง ผบก.บก.ปปป. พ.ต.อ.กฤษณะ สุขสมบูรณ์ รอง ผบก.ปทส.พ.ต.อ.เอกศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส.พ.ต.อ.ชวลิต สุขสุวรรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี รรท.ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ทวีศักดิ์ จินดาศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี พ.อ.บุญยิ่ง คงเกตุ หน.ฝ่ายข่าว กอ.รมน.พ.ท.รัชพล ชิณพัฒน์ หัวหน้าฝ่ายส่งกำลัง กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ พ.ต.สุเมธ บัวขาว รอง เสธ.มทบ.17 พ.ต.อ.วันชัย อ่อนละออ ผกก.สภ.ไทรโยค เข้าร่วมประชุม โดยมีนายอชิระ ณ นคร ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าที่ กจ.10(ราชบุรี) นายอาทิตย์ เกมชัยภูมิ นายช่างสำรวจ ธนารักษ์กาญจนบุรี นายชะลอ ประทีป นายก อบต.ศรีมงคล นายไลเฮง แซ่ลิ้ม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 เข้าร่วมและตอบคำถามของ รอง ผบ.ตร.

สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิหพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองเมืองดี ว่ามีนายทุนเข้ามาบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดินของหน่วยงานราชการ และนำไปปลูกพืชทางการเกษตรในท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จำนวน 1 แปล และท้องที่ หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 2 แปลง รวม 3 แปลง จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบในเชิงลึก ผลปรากฏพบเป็นเรื่องจริงตามที่ได้รับแจ้งมา ซึ่งพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้ง 3 แปลง ส่วนใหญ่อยู่กลางหุบเขา การเดินทางค่อนข้างลำบาก จึงไม่มีนักท่องเที่ยวผ่านไปมา จะมีก็แต่ชาวบ้านในพื้นที่เท่านั้น

โดยจากการลงตรวจสอบพื้นที่ในเบื้องต้น ปรากฏว่า มีกลุ่มนายทุนบุรุกพื้นที่ทั้ง 3 แปลง ประกอบด้วย แปลงที่ 1 เลขพิกัดที่ 47P 508492 E 1546637 N พบพื้นที่ถูกบุกรุก บริเวณ ริมห้วยแม่กะบาล หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทโยค อยู่ในเขตพื้นที่ราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลของกองทัพภาคที่ 1 เข้าทำประโยชน์เป็นพื้นที่ฝึก มีการบุกรุกเนื้อที่ประมาณ 244 ไร่ ปลูกพืชการเกษตร เช่น มะนาว แตงโม ฝักทอง เต็มบริเวณพื้นที่ และมีการเตรียมกล้าไม้ มะพร้าว มะม่วง ทุเรียน มะละกอ อยู่ภายในเรือนเพาะชำ อีกด้วย ส่วนแปลงที่ 2 อยู่ที่บริเวณเชิงเขา บ้านพุน้ำร้อน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เนื้อที่ประมาณ 200 ไร่ ซึ่งที่ดังกล่าวปลูกต้นยูคาลิปตันอายุได้ประมาณ 1 ปี สำหรับแปลงที่ 3.พบพื้นที่ถูกบุกรุก แผ้วถางใหม่และบางส่วนลงกล้าไม้มะขาม มัน กล้วย เต็มแปลง และยังมีการขยายพื้นที่ออกไปเรื่อยๆ เนื้อที่ที่ถูกบุกรุกประมาณ 180 ไร่ ซึ่งที่ที่ถูกบุกรุกแปลงดังกล่าวอยู่ติดกับแปลงที่ปลูกยูคาลิปตัส

Advertisement

โดยที่ดินทั้ง 3 แปลง ตรวจสอบแล้วพบอยู่ในเขตราชพัสดุ ซึ่งกองทัพภาคที่ 1 ขอใช้ประโยชน์เข้าดูแลเป็นพื้นที่ทำการฝึก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประเทศเมียนมา เพียงแค่ประมาณ 800 เมตรเท่านั้น และนอกจากนี้อยู่ใกล้เขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษบ้านพุน้ำร้อน และคาดว่าที่ดินที่ถูกบุกรัฐ ทำให้รัฐเสียหายรวมกันประมาณ 62 ล้านบาท

จากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. คณะของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดกาญจนบุรี ที่ 497/2562 ไปตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแปลงที่ 1 หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค เมื่อไปถึงไม่พบผู้ใดมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ

Advertisement

ล่าสุดคณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพบว่าพื้นที่ที่ถูกบุกรุกทั้งหมด จำนวน 168-3-91 ไร่ มีอาคารปลูกสร้างเป็นบ้านพักคนงาน จำนวน 2 หลัง อาคารคลุมเครื่องสูบน้ำ จำนวน 1 หลัง นอกจากนี้ยังมีการปลูกมะม่วง มะละกอ มะพร้าว มะกรูด รวมทั้งพืชเกษตรชนิดอื่นรวมกว่า 1 หมื่นต้น ขณะเดียวกันยังพบรถจักรยานยนต์ และรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง จำนวน 4 คัน อีกทั้งยังพบอุปกรณ์ที่สำหรับทำการเกษตร และการก่อสร้างจำนวนหนึ่ง

เจ้าหน้าที่จึงได้ทำบันทึกตรวจยึดเอาไว้ ก่อนที่จะส่งมอบของกลางให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค พร้อมกับให้ติดตามจับกุมตัวนายทุนที่เป็นเจ้าของมาดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งขณะนี้คณะเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบพื้นที่ที่ถูกบุกรุก แปลงที่ 2 และแปลงที่ 3 ที่ตั้งอยู่หมู่ 12 ต.บ้านเก่า เมือง จ.กาญจนบุรี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ท้องฟ้าเริ่มมืดเสียก่อน คาดว่าวันที่ 26 กันยายน คณะเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง

พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า การบุกรุกที่เกิดขึ้นจะต้องรอการสอบสวนว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นนโยบายของรัฐในเรื่องของป่าต้นน้ำลำธาร เนื่องจากเกี่ยวข้องทางอ้อมกับความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นจึงต้องฝากเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยให้เข้มงวดกวดขัน

เมื่อถามว่าเหลืออีกเพียง 5 วันเท่านั้น ที่ท่านจะเกษียณอายุราชการ มองว่ากลุ่มทุนเดิมๆ จะเข้ามาบุกรุกต่อหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คนเกษียณก็เกษียณไป แต่กฎหมายยังอยู่ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบก็จะต้องดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่

ผู้สื่อข่าวถามว่า คนที่จะมารับงานต่อท่านจะต้องมีลักษณะเฉพาะอย่างไร พล.ต.อ.ศรีวราห์ ตอบว่า “เรื่องนี้จะต้องไปถามท่าน ผบ.ตร.”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image