จากกรณีนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 233 ม.1 ต.หนองทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนว่า ลูกสาวชื่อนางสาววรรณา ศรียาไพ อายุ 37 ปี ถูกทำร้ายด้วยการจุดไฟเผาและขังไว้ในห้องพักอย่างโหดโหดเหี้ยม จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และกลายเป็นคนพิการ เหตุเกิดภายในหอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช ขณะศึกษาในระดับ ปวส.ปี 2 เทอมสุดท้าย ที่สถาบันแห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ออกหมายจับนายคำรณ หรือหนิด สมญาพิทักษ์ เป็นอดีตแฟนของนางสาววรรณา ข้อหา พยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ เบื้องต้นนายคำรณ ได้ให้การปฎิเสธ และได้ประกันตัวไป ก่อนที่จะหลบหนี จนถึงปัจจุบันรวมเวลากว่า 17 ปี
คืบหน้าวันที่ 3 ต.ค. 2562 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ หลังจากที่ทราบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถจับกุมตัวนายคำรณ หรือหนิด สมญาพิทักษ์ เป็นอดีตแฟนของนางสาววรรณา ข้อหา พยายามฆ่าและปล้นทรัพย์ ขณะหลบหนีอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี และกำลังนำตัวกลับมาดำเนินคดี ที่ จ.นครศรีธรรมราช พบว่านางกอลิเย๊าะ และครอบครัว มีสีหน้ายิ้มแย้ม คลายความกังวล และกำลังเตรียมตัวเดินทางไปยัง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมกับพานางสาววรรณา ไปดูหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุด้วย
นางกอลิเย๊าะ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า หลังจากที่ทราบข่าวว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายลูกสาว ด้วยการใช้ไม้หน้าสาม ตีเข้าที่ศีรษะ พร้อมจุดไฟเผาและขังไว้ในห้องพัก อย่างโหดเหี้ยมมาก เหตุเกิดที่ จ.นครศรีธรรมราช เหตุการณ์ได้ผ่านมา กว่า 17 ปี ไม่ถึง 3 ปี คดีก็จะขาดอายุความ ตนและครอบครัวรู้สึกดีใจมาก ทั้งที่ก่อนนี้เคยหมดความหวังไปแล้ว แต่หลังจากที่ได้พบกับผู้สื่อข่าวและมีการนำเรื่องราวไปเผยแพร่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการรื้อคดีขึ้นมาใหม่ เนื่องจากคดีถูกปกปิดมานาน จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้ในที่สุด
นางกอลิเย๊าะ กล่าวอีกว่า การทำงานจนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายตนขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทั้ง ตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจกองปราบ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสื่อมวลชน
